รีวิว + VDO Test Ride DUCATI MONSTER 1200R!!

  • 07/06/2016
  •  939 views

 

[ Kenny Sagawa หัวหน้าฝ่ายบรรณาธิการ Webike ]

งานอีเว้นท์ DUCATI 2016 Model Test Ride จัดขึ้นที่ Sodegaura Forest Raceway และมีที่ให้บรรดาผู้สื่อข่าวทั้งหลายเข้าร่วมชมงานครั้งนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็น MONSTER 1200R ที่เป็นพี่ใหญ่สุดขอตระกูล Monster ออกมาโลดแล่น

 

เรามาดูสเปคของรุ่น R กันก่อนดีกว่าว่าจะโหดขนาดไหน คุณ Kenny Sagawa ฝ่ายบรรณาธิการของเราจะมารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันครับ

 

[รายงานจาก Webike Moto] วีดีโอ DUCATI MONSTER 1200R Test Ride

 

สเปคของ “R” เครือง 150ps

ปีนี้ทาง Ducati มีออกใหม่ทั้ง Scrambler Sixty2, HYPER MOTARD 939 และ XDiavel เรียกได้ว่ากำลังทำตลาดแบบสุดๆกันเลย ซึ่งผมเองก็มีโอกาสได้ลองขี่รถที่ออกมาใหม่นี้หมดแล้ว ถ้าจะให้คำจำกัดความของ Monster 1200R นี้คงไม่มีคำไหนเหมาะเท่ากับคำว่า “ความตื่นเต้น” อีกแล้ว เพราะเป็นรถที่มีสไตล์ และให้ความแรงที่สูงจนเหมือนกับโฆษณาที่บอกว่าคันนี้คือ “Ultimate Monster” ทั้งรูปร่าง เครื่องยนต์ ช่วงล่างนั้นได้รับการพัฒนาถึงขั้นสูงสุดเพื่อไว้ใช้ในสนามแข่ง

 

 

ตัวนี้มีเครื่องยนต์ขนาด 1198.4cc Testastretta 11 องศา ระบายความร้อนด้วยน้ำ ตามแบบฉบับของ Monster ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็จะถือว่าเป็นเครื่องแบบเดียวกับ 1200 กับ 1200S แต่เรื่องระบบไอดี กับท่อในตัว “R” ทำใหม่จนพลังเพิ่มขึ้นมาถึง 10% แรงบิด 5.5% เมื่อเทียบกับตัวธรรมดากับตัว S ในสนาม

 

 

เข้าถึงความแรงระดับ MotoGP ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

เครื่องของตัวนี้จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อรอบอยู่ประมาณ 10,000rpm แต่เพราะเป็นเครื่องขนาด 1200cc จึงทำให้คันนี้จะเพิ่มแรงบิดขึ้นเมื่อความเร็วของเราอยู่ระดับกลางๆ ถ้าในจังหวะที่คุณเปลี่ยนโหมดการวิ่งเป็น “sport mode” ให้มั่นใจว่ายางของคุณกำลังอุ่นได้ที่ จากนั้นก็สามารถเปิดคันเร่งได้เลย แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าหน้าจะยกหน่อยๆเหมือนกับจรวดกำลังพุ่งอย่างไงอย่างงั้นเลย

Traction Control หรือกันล้อฟรีจะช่วยทำให้หน้าไม่เชิด และไม่ทำให้รถเสียการควบคุม ส่วนเรื่องท้ายปัดนั้นหมดห่วงได้เลย เพราะนี่เป็นจุดเด่นของระบบ Traction Control อยู่แล้ว เทคโนโลยีในสมัยนี้สามารถทำให้เราเข้าถึงระดับรถแข่งอย่าง MotoGP ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

 

 

โหมดการขับขี่มีให้เลือกถึงสามแบบด้วยกันคือ ”urban” ”touring” และ ”sports” โดยระบบ Ducati Traction Control นี้มีถึง 8 ระดับด้วยกัน ซึ่งจะวัดระดับการทำงานของเครื่อง ช่วยควบคุมจังหวะในการจุดระเบิด โดยจะไม่ตัดการทำงานเอาดื้อเหมือนอย่าง TC ทั่วๆไป กลับกันเจ้า DTC นี้จะช่วยเลี้ยงรถให้ไปต่อได้อย่างนุ่มนวล ด้วยสิ่งนี้จึงทำให้ Ducati ก้าวมาอยู่ในระดับแนวหน้าของรถแนวสปอร์ตที่หลายๆคนให้ความชื่นชอบ และสนุกไปกับการขับขี่

 

 

แน่นอนว่า Monster 1200R คันนี้จะมาพร้อมกับ ABS เหมือนกับ 1299 Panigale ด้วยเบรคคาลิปเปอร์ Brembo M50 Monoblock กับ เบรค ABS ของ Bosch 9MP ทำให้เจ้ามอสเตอร์ตัวนี้ทั้งทรงพลัง และในขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยเช่นกัน

ระบบเบรคของคันนี้สามารถหยุดได้อย่างชะงัดทันใจ แต่จุดที่น่าทึ่งก็คือความนิ่มนวลสุดๆเวลาเบรคนั่นเอง เมื่อคุณเหยียบเบรคอย่างกระทันหัน ระบบเบรค ABS ก็จะทำงาน และจะค่อยๆปล่อยให้เราเข้ามาควบคุมแทน

 

 

ใช้งานง่าย เอามาเทียบชั้น Panigale ได้เลย

สำหรับ Monster 1200R นี้ เรื่องการควบคุมรถนั้นง่ายมากๆ ไม่ว่าคุณจะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือเลี้ยวกระทันหันก็ไม่มีปัญหา จะเร็วแค่ไหน รถคันนี้ก็จะให้ความนุ่น เบาสบายในการขับอยู่ตลอด น้ำหนักของรถที่ถือว่าไม่หนักเกินไปเมื่อเทียบกับรูปร่างใหญ่ๆของมันทำให้เราเข้าโค้งโหดๆได้อย่างไม่มีปัญหา

ความนุ่มนวลเวลาขับนั้นถือว่าเทียบเท่ากับตอนขับ Panigale ได้เลยทีเดียวแม้จะเร่งแบบสุดๆก็ยังไปได้ลื่นแบบสุดๆ แถมด้วยท่านั่งแบบหลังตรง ทำให้เราสามารถขับแนวสตรีทได้ด้วยเช่นกัน

 

 

ความสูงของเบาะอยู่ที่ 830มม. ซึ่งจะสูงกว่าเบาะของรุ่นปกติ และรุ่น S เนื่องจากเบาะของทั้งสองรุ่นนั้นทำมาเพื่อให้เวลานั่งแล้วจะไม่เมื่อย และขาของคนขับสามารถแตะถึงพื้นได้โดยไม่ต้องเขย่ง อย่างไรก็ตาม ระดับความสูงนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่พอดีเลยสำหรับรถที่ใช้แข่งในสนาม ซึ่งเบาะสำหรับรุ่น R นี้ดีไซน์มาสำหรับการขับแบบสปอร์ตโดยเฉพาะ แถมยังมีโช๊คจาก Ohlins ทั้งหน้า และหลัง จึงทำให้ความสูงของรถนั้นเพิ่มขึ้นเพื่อทำให้องศาตัวเราเวลาก้มหน้านั้นดีขึ้น นี่เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ารถคันนี้ทำมาสำหรับงานแข่งในสนามโดยเฉพาะ ถึงแม้จะดูสูงไปหน่อยสำหรับสไตล์เน็กเก็ตก็ตามที  

 

 

Monster 1200R คันนี้ทำขึ้นมาเพื่อนเน้นเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ให้ถึงขีดสุด เรื่องการขับเคลื่อนนั้นจะคล้ายๆกับ 959 Panigale ก่อนหน้านี้ผมขับรุ่นปกติกับ S มาแล้ว พอได้มาคร่อมเจ้าตัวนี้ผมรู้สึกได้ถึงเครื่องยนต์ L Twin ที่นิ่มขึ้น ไหลลื่นกว่ามาก แน่นอนว่าเป็นเพราะเครื่องยนต์ และช่วงล่างที่พัฒนามาเป็นอย่างดีทำให้รถคันนี้เข้าถึงคำว่า ‘สุดยอด’ จริงๆครับ

 

ดีไซน์ที่สวยงาม เหมาะที่จะขับออกไปโชว์

ตัวถังของ Monster 1200R นั้นใหญ่มาเพราะก่อนหน้านั้นผมลองไปขับ 959 Panigale มาจึงสามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน สำหรับ Monster 1200R ถึงใหญ่ไปบ้างแต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับความแรง และสมรรถนะของมัน ที่สำคัญคือดีไซน์ที่สวยงามโดยเฉพาะตรงตัวถังที่เว้าได้ทรงคล้ายๆกับหุ่นนักกีฬา ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสามารถของทีมดีไซน์เนอร์ของ Ducati ว่าเป็นทีมที่มีความละเอียดอ่อน และความสวยงามของรถต้องมาเป็นอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้

 

 

นอกเหนือจากเรื่องของการใช้งาน และอะไหล่หรูหราต่างๆแล้ว สิ่งที่ทำให้รถคันนี้ดูสวยงามขึ้นมาอีกก็คือ ลายกราฟฟิกโลโก้ เบาทรงสปอร์ต และล้อที่ตีขึ้นรูป เพิ่มความเป็นสปอร์ตในตัวมันจนถึงขีดสุด Ultimate Monster คันนี้จะเป็นรถที่ทำให้คุณเกิดความหลงใหล และอยากที่จะครอบครองมันทันทีที่ได้สัมผัส

 

 

ดูมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นของ DUCATI

ดูอะไหล่ และอุปกรณ์แต่งสำหรับ DUCATI MONSTER 1200R

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Webike Japan

 

 

สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย

 

 

โปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษประจำสัปดาห์ 

Weekly sale from Webike Thailand

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ฉลองครอบรอบ 20ปี วีไบค์

ค้นหาสินค้าจาก วีไบค์ไทยแลนด์

Return Top