สำนักงานใหญ่ของ Yoshimura Japan อยู่ห่างจากบ้านผม 27 กิโลเมตร
ก็คงพูดได้ว่านักขับทุกคนคงรู้จักชื่อของ Yoshimura Japan ที่เป็นผู้ผลิตอะไหล่มอเตอร์ไซค์ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นที่คนนิยมมากที่สุด (จากมาตราฐานของผม) และถือเป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มการรวมท่อ เช่น จาก 4 เป็น 1
หลังจากที่รู้ว่ามีบริษัทที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้อยู่แถวบ้านผม ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ไปเยี่ยมชมซักครั้ง เมื่อโอกาสมาถึงผมจึงรีบคว้าไว้ ผมได้ไปเข้าร่วมงาน YOSHIMURA TOURING BREAK TIME Vol. 4

ตีมของงานนี้ก็คือ Carburetor Day
รถมอเตอร์ไซค์ทุกคันของผม (ตั้งแต่ผมเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1988) มีแต่ที่เป็นหัวฉีดทั้งนั้น ไม่มีคันไหนมีคาร์บูเลย
ที่งานนี้ ช่างของ Yoshimura เลยสอนผมเกี่ยวกับระบบการทำงานต่างๆของคาร์บู ซึ่งสำหรับผมก็ดูค่อนข้างจะยากหน่อยๆ

สาธิตการยกเครื่องคาร์บูเรเตอร์ TMR-MJN

ถึงแม้ว่าเราจะยกเครื่องคาร์บู TMR-MJN เองโดยปราศจากความช่วยเหลือของ Yoshimura ได้ แต่ทางช่างก็สอนวิธีการบำรุงรักษาเองแบบง่ายๆให้ผม อีกทั้งยังสาธิตวิธีการปรับนู่นนี่ให้ด้วย ซึ่งขั้นตอนก็ไม่อยากอย่างที่คิด แต่ผมก็ยังกลัวว่าผมจะทำมันพังเมื่อผมจับมันอยู่ดี
เค้าบอกกันว่าเราจะรู้ถึงสภาพของคาร์บูได้ด้วยการเคาะรอบๆวาล์วปีกผีเสื้อ คุณจะได้ยินเสียงที่แปลกออกไปหากมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ผมก็พยายามเปรียบเทียบเสียงอยู่บ่อยๆนะ แต่ส่วนมากแล้วมันจะต่างกันแค่นิดเดียว ประมาณว่า “เอ่อ…..ผมว่ามันก็น่าจะต่างนะ ถ้าคุณว่าต่างเหมือนกัน” ผมคงไม่มีวันรู้เรื่องนี้ถ้าช่างที่นี่ไม่บอกผม ถือเป็นช่างที่มีความเชี่ยวชาญสูงจริงๆ
หลังจากที่ช่างของ Yoshimura สาธิตเสร็จแล้ว เขาก็ให้ผมลองสัมผัสตัวคาร์บู TMR-MJN ดู ผมจึงเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่ารูในลูกเร่งคาร์บูนั้น ทำออกมาสวยใช้ได้เลยทีเดียว (ผมลองถามรุ่นพี่ที่ทำงานดูเรื่องนี้ เขาบอกว่าที่ผมเห็นน่ะ คือส่วนพิเศษเรียกว่า MJN ที่ผลิตโดย Yoshimura Japan โดยเฉพาะ มีการจดลิขสิทธิ์เรียบร้อย ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่องง่ายๆแค่นี้ก็ไม่รู้นะ) ขนาด และรูต่างๆถูกคำนวน และออกแบบมาอย่างดี นอกจากนั้นยังผลิตมาเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถอัดฉีดน้ำมันได้ดีที่สุด ผมจึงรู้สึกทึ่งมากที่รู้ว่า Yoshimura คินค้นส่งนี้ขึ้นมา เพียงแค่รูเล็กๆ สามารถสร้างพละกำลังให้กับเครื่องยนต์ได้อย่างมหาศาล

Honda Grom กับ คาร์บูเรเตอร์ YD

เมื่อคุณได้ยินคำว่า MSX125(GROM) คุณคงนึกถึงว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์หัวฉีดเล็กๆ แต่ Yoshimura สามารถหาชุดอะไหล่ที่จะเปลี่ยนให้ MSX ตัวนี้เป็นรุ่นที่สามารถใช้คาร์บูได้ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจพวกที่ยอมเสียเวลาไปทำเรื่องยากๆไร้สาระพวกนั้นเลย จนกระทั่งตอนนี้ ผมถึงเข้าใจแล้วว่าคาร์บูนั้นเหมือนมีพลังพิเศษที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวเลขได้ ทางเดียวที่จะรู้ก็คือ ต้องขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณของผู้ใช้เองเท่านั้น
การติดตั้ง YOSHIMURA Carburetor Conversion Kit นั้นง่ายมาก พอเอาด้านนอก กับตัวถังออก ก็จะสามารถติดตั้งได้ในเวลาเพียงแค่ประมาณชั่วโมงเดียว

หลังจากงานนั้น ผมได้โอกาสขับ MSXเพื่อที่จะเปรียบเทียบระหว่างตัวที่ติดท่อไอเสีย Yoshimura Cyclone กับตัวที่เป็นหัวฉีด และมีคาร์บูใหญ่ๆติดอยู่ ต้องขอขอบคุณ Yoshimura Japan เป็นอย่างสูง!!!!

แรกเริ่มเลย ผมขอคอนเม้นในเรื่องสเปคของ Injection & Cyclone ก่อนละกันนะครับ
เสียงที่ออกมาจากระบบท่อไอเสีย ฟังแล้วรู้เลยครับว่าเป็นเสียงของ Yoshimura แน่ๆ ผมว่าท่อไอเสียของ Yoshimura จะให้เสียงที่เบากว่าของทุกเจ้า โดยไม่จำเป็นว่าขนาดเครื่องจะใหญ่หรือเล็ก ตอนลองเครื่องยนต์เล็ก ผมบิดคันเร่งแค่นิดเดียวแล้วเหยียบคลัชรถก็วิ่งฉิวแล้ว อาจจะเป็นเพราะรถเล็กก็ได้ รถถึงออกตัวแรงกว่าที่ผมคาดไว้ ที่เด็ดกว่านั้นก็คือเสียงตอนที่บนเร่งเครื่องนี่สุดยอดไปเลยครับ ผมอยากจะบิดให้สุดไปเลยถ้าทำได้ แต่นี่มันงานลองขับเฉยๆ เลยต้องห้ามใจไว้หน่อย

จากนั้นผมก็ไล่ดูส่วนอื่นๆของ MSXตัวนี้ เช่น ตอนเข้าเกียร์หลังจากเกียร์หนึ่ง หรือตำแหน่งปุ่มไฟกระพริบ กับแตรที่ดูจะไม่เหมือนมอเตอร์ไซค์อื่นๆ

ท้ายที่สุดผมก็มาลองเจ้าตัวที่เป็นหัวฉีดครับ

สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดใน MSX ตัวนี้ก็คือ มันมี 4 เกียร์ ตอนก่อนที่ผมจะเริ่มลองขับก็เคยคิดอยู่ว่าแค่สี่เกียร์เนี่ยมันไม่ล้าสมัยไปหน่อยเหรอ มันต้องเป็นหกเกียร์มากกว่ามั้ง แต่พอได้มาขับจริงๆแล้วก็รู้ว่ารถคันนี้เหมาะกับสี่เกียร์มากกว่า

นอกจากนั้นเสียงตอนที่ผมเปลี่ยนเกียร์เพื่อเร่งเครื่องนี่ยังสุดยอดไปเลยครับ ตอนเปลี่ยนเกียร์ก็ไหลลื่น ไม่มีสะดุด และเร่งเครื่องได้ฉิวเลยครับ แม้กระทั่งตอนที่ผมเปลี่ยนไปเป็นเกียร์สี่แล้วบิดคันเร่งทั้งๆที่ความเร็วยังไม่ถึงก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ คิดว่าน่าจะเป็นที่ระบบเกียร์ที่สร้างมาดีมากๆ สุดท้ายผมก็ได้รู้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่มีหลายๆเกียร์ก็ใช่ว่าจะดีกว่าเสมอไป

ต่อไปขอพูดเรื่อง 181cc Big Bore YD-28 Carburetor ST-2 Camshaft และ Cyclone มั่งนะครับ

วินาทีที่ผมสตาร์ดเครื่องผมสามารถรู้ถึงความแตกต่างของรถได้เลยจากเสียงเครื่อง เสียงนี้เบาๆทุ้มๆกว่าตัว หัวฉีดกับไซโคลนมากครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้จะคาดหวังอะไรมากกับรถคันนี้ แต่พอผมเหยียบคลัช บิดคันเร่งไปนิดเดียวเท่านั้นแหละ รถพุ่งเลยครับ เหมือนกับมีคนมาถีบจากข้างหลังเลย

พอขับๆไปก็จะมีเสียงดูดไอดีขึ้นมา และก็จะเร่งเครื่องได้จนสุดเลยครับ ความรู้สึกเหมือนเป็นรถคนละคันกันเลย ถึงผมจะเข้าเกียร์ในจังหวะที่ความเร็วยังไม่ถึง ความเร็วรถก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีปัญหา ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยเวลาขับแบบหัวฉีด อยากจะรู้จริงๆว่าเจ้าตัวนี้แรงม้าเท่าไหร่กัน

สำหรับผมนี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ขับรถที่มีคาร์บู และผมประทับใจมากเวลาเห็นการตอบสนองของมันเวลาเร่งเครื่อง ตัวปรับเกียร์ตอนลดเกียร์ลงก็ไหลลื่นจนผมอยากจะลดเกียร์ลงบ้างถึงบางทีจะไม่จำเป็นก็ตาม นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยผ่านมาก่อนเลยตอนที่ขับแบบหัวฉีด ทุกครั้งที่ผมเจอรถที่ใช้คาร์บู ผมก็พูดกับตัวเองเสมอๆว่า “ทำไมคนนี้ชอบใช้มอเตอร์ไซค์แบบมีคลัชกันนะ” พอมาตอนนี้ผมเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ

Quick Shifter

นี่แหละคือเหตุผลหลักเลยที่ผมตัดสินใจเข้าร่วมงาน YOSHIMURA Touring Break Time Vol.45

นั่นก็คือเจ้าตัว Quick Shifter นั่นเอง!! ซึ่งรถนอกหรูๆหลายคันจะมีติดเจ้าตัวนี้อยู่ มันทำอะไรได้น่ะเหรอ มันทำให้เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัช และเปิดคันเร่งไง

มันก็เหมือนกับเอาเกียร์กระปุกมาติดกับรถมอเตอร์ไซค์น่ะแหละ เพราะอย่างใน MotoGP ที่คุณจะต้องแข่งกับเวลาอาจจะเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ขั้นตอนการบีบคลัช เปิดคันเร่ง พวกนี้ต้องตัดออกไป ระบบ Quick Shifter เลยเข้ามามีบทบาทในนี้ อีกอย่างหนึ่ง พอคุณไม่ต้องมาคอยนั่งบีบคลัช ก็จะทำให้หลายๆอย่างมันง่ายขึ้นไปอีก ไม่เคยรู้สึกเมื่อยมือเหรอเวลาต้องมาคอยบีบคลัชตอนเดินทางไปไหนไกลๆ ถ้าคุณมีเจ้าตัวนี้อยู่ล่ะก็ อย่าว่าแต่จะง่ายขึ้นเวลาไปแข่งเลย แม้แต่ตอนไปทัวรริ่งก็จะช่วยให้คุณขับได้สบายขึ้นเยอะ

ราคาของ Quick Shifter ประมาณ 50,000 เยน ถือว่าไม่แพงมากถ้าเทียบกับราคาระบบท่อไอเสีย ซึ่งผมก็กำลังคิดจะซื้ออยู่ (คุณสามารถซื้อ ตัวควบคุมหัวฉีดเดี่ยวๆก็ได้ หรือจะเป็น รถดีๆมาพร้อมตัวควบคุม ระบบตัวกำลังเครื่องยนต์ และ Quick Shifter ก็ได้)

หลังจากจบเรื่องคาร์บูไปแล้ว พอก็ไปลอง Ninja250 ที่ติด Quick Shifter มาครับ ความรู้สึกผมถ้าจะให้สั้นๆก็คือ “มันสุดยอดของสุดยอดมากครับ!!!!”

ระบบการทำงานมันเป็นอย่างงี้ครับ จะมีเซนเซอร์ติดอยู่ที่ก้านเกียร์ควรจับตอนเปลี่ยนเกียร์อยู่ และจะทำให้การจุดระเบิดของเครื่องยนต์เบาลง เกียร์ก็จะเปลี่ยนตอนนั้น ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องมาคอยนั่งเปลี่ยนเกียร์อยู่ตลอด (ความรู้สึกเหมือนขับ AT ที่มีสองคลัชเลย) อีกทั้งคุณจะสามารถเข้าเกียร์เร่งเครื่องในขณะที่เปิดคันเร่งอยู่ได้ ถึงจะมีกระตุกนิดหน่อยก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรมาก และเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นมืออาชีพเข้าไปทุกทีๆ กลับกัน คุณก็สามารถบีบคลัช เข้าเกียร์ได้ตามปกติเหมือนกัน

ผมรู้สึกซื่อบื้ออยู่หน่อยๆเหมือนกัน ที่ไม่รู้ว่ามีของล้ำค่าอย่างนี้อยู่ (กลับถึงบ้านปุ๊บผมรีบเข้าเน็ตสั่งเลยครับ)

สิ่งนี้เป็นของที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่จะซื้อมากๆ เพราะคุณสามารถใช้ได้ทั้งเวลาแข่ง และทัวร์ริ่ง เดี๋ยวผมจะมาเขียนรีวิวอีกทีหลังจากที่ผมได้เจ้าตัว Quick Shifter นี้มานะครับ

.

สินค้าที่มีโชว์ในการทดลองขับครั้งนี้
ลองมาดูหน้าเพจ MSX ที่มีอะไหล่ต่างๆในการทดลองขับครั้งนี้ และอะไหล่แต่งอื่นๆดูนะครับ

คุณจะสามารถหาชุดคาร์บูอย่างในรูปได้ที่นี่ มีทั้งชุดเพิ่มซีซี 181cc ล้อต่างๆ ที่คุณจะต้องทึ่งอย่างแน่นอน

 

• Honda Grom, review, คาร์บูเรเตอร์