[ข่าวต่างประเทศ] เหล่านักบิดในฮ่องกงพูดถึง CB750 Hornet อย่างไรบ้าง?

"Yellow Bee" รุ่นมิดเดิลเวท ปรับโฉมครั้งแรก

Honda CB 750 Hornet เป็นจุดสนใจของตลาดรถจักรยานยนต์สตรีทไบค์รุ่นมิดเดิลเวทนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2023 ด้วยเครื่องยนต์คู่ขนาน 270 องศา ขนาด 755 ซีซี ที่พัฒนามาจาก CRF 1100L Africa Twin ผสานกับการควบคุมรถแบบสปอร์ตและโครงรถที่คล่องตัว ทำให้ CB750 Hornet กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูงสำหรับนักบิดทั้งมือใหม่และมือกลางได้อย่างรวดเร็ว

CB 750 Hornet ปี 2025 ยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ พร้อมรูปลักษณ์ที่เฉียบคมและระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ทำให้ "Yellow Bee" คันนี้โดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงหลักของ Hornet ปี 2025 คือเส้นสายตัวถังด้านหน้า พร้อมเส้นสายฝากระโปรงที่เฉียบคมยิ่งขึ้น

ส่วนหน้าดุดันยิ่งขึ้น

Hornet ปี 2025 ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย ด้วยการออกแบบส่วนหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED คู่ ผสานกับเส้นสายครอบไฟหน้าที่เฉียบคมขึ้น ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความดุดันและเสถียรภาพการไหลเวียนของอากาศที่ความเร็วสูง สัดส่วนโดยรวมใกล้เคียงกับสไตล์สตรีทไฟท์เตอร์ขนาดใหญ่ และแผ่นตกแต่งลาย "Hornet" ที่ด้านข้างถังน้ำมันทั้งสองข้างก็ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน

ในความคิดของผม Hornet รุ่นก่อนหน้าพยายามแสดงบุคลิกแบบ "ผึ้งเหลือง" ด้วยมุมเรขาคณิตที่เฉียบคมและเส้นสายที่ดูแข็งแกร่ง แต่กลับขาดความสมดุล เส้นสายของรุ่นนี้มีความประณีตมากขึ้น ให้ความรู้สึกถึงเลเยอร์ ไฟหน้าไม่ได้ดูเว่อร์วังอลังการเกินไป แต่กลับดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุม ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความคล่องตัว CB 750 Hornet ใหม่โดดเด่นกว่ารถรุ่นอื่นๆ

ด้านหน้าของรถจักรยานยนต์โดดเด่นด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED คู่

หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของ CB 750 Hornet ใหม่ คือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ที่ครบครัน ฮอนด้าได้ติดตั้งจอแสดงผล TFT สีเต็มรูปแบบขนาด 5 นิ้ว ที่ช่วยให้สามารถควบคุมระบบนำทาง ฟังเพลง และโทรศัพท์ผ่านระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Honda RoadSync จอแสดงผลแสดงโหมดการขับขี่ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าสามโหมด (Sport/Standard/Rain) และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งกำลังเครื่องยนต์ ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (HSTC) ระบบเบรกเครื่องยนต์ (EB) ระบบควบคุมการยกล้อหน้า และอื่นๆ ได้ตามความต้องการ

จอแสดงผล TFT สีเต็มขนาด 5 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Honda RoadSync

ปุ่มมัลติฟังก์ชันทางด้านซ้ายใช้ปรับแต่งการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์

เครื่องยนต์ 755 ซีซี สมรรถนะสูง

เครื่องยนต์ยังคงใช้เครื่องยนต์ SOHC 8 วาล์ว 2 สูบเรียง ขนาด 755 ซีซี เหมือนเดิม ให้กำลังสูงสุด 91.7 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 7.65 กิโลกรัม-เมตร ที่ 7,250 รอบต่อนาที เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศา ให้สัมผัสที่เร้าใจดุจเครื่องยนต์ V-Twin ขณะที่ดีไซน์แบบ Unicam ช่วยให้โครงสร้างมีขนาดกะทัดรัด สัมผัสการขับขี่ที่นุ่มนวลและควบคุมง่าย พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ความเร็วต่ำและกลาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและให้ความรู้สึกทรงพลังบนถนนที่คดเคี้ยว

สิ่งหนึ่งที่ควรสังเกตคือความแตกต่างระหว่าง NC 750 ซีรีส์ ซึ่งใช้เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศา ร่วมกับ CB 750 Hornet แม้ว่าความจุเครื่องยนต์จะใกล้เคียงกัน แต่แพลตฟอร์มเครื่องยนต์ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เครื่องยนต์ SOHC สูบคู่แถวเรียงของ NC 750 เน้นการใช้งานจริง ด้วยรอบเครื่องยนต์เพียง 6,750 รอบต่อนาที เน้นความประหยัดน้ำมัน ความทนทาน และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน พร้อมตัวเลือก DCT ทำให้เป็นรุ่นที่เหมาะสมกับการเดินทางและการท่องเที่ยว ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ Unicam ที่พัฒนาขึ้นใหม่ใน CB 750 Hornet มีรอบเครื่องยนต์สูงสุดเกือบ 10,000 รอบต่อนาที และเสียงคำรามกระหึ่ม เอกลักษณ์ของ NC 750 โดดเด่น เหมาะสำหรับการขับบนถนนและบนภูเขา ถึงแม้จะดูเหมือน "750 vs 750" แต่เมื่อได้ลองขับแล้ว คุณจะพบว่ามันมีบุคลิกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

ใช้เครื่องยนต์ SOHC 8 วาล์ว 2 สูบเรียง ขนาด 755 ซีซี

เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศาสร้างเสียงที่คล้ายกับเครื่องยนต์ V-twin และการออกแบบ Unicam ทำให้โครงสร้างโดยรวมมีขนาดกะทัดรัด

ฮาร์ดแวร์ที่ผสานการใช้งานจริงและสมรรถนะ

CB 750 Hornet เป็นรถจักรยานยนต์ขนาดกลางที่เน้นการควบคุมรถและความคล่องตัว เฟรมเหล็กทรงเพชร ประกอบกับโช้คหน้าหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาด 41 มม. และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link multi-link ผสานความสะดวกสบายและความสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมยางขนาด 120/70 R17 และ 160/60 R17 มอบความคล่องตัวและรองรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

ระบบเบรกหน้าติดตั้งคาลิปเปอร์เบรก Nissin แบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ และดิสก์เบรกคู่ขนาด 296 มม. ให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและพลังเบรกที่สม่ำเสมอ ระบบเบรกหลังติดตั้งดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มม. และคาลิปเปอร์เบรกเดี่ยว Nissin โครงสร้างที่ควบคุมง่ายนี้มอบความมั่นใจอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขับขี่ในเมืองหรือถนนที่คดเคี้ยว ด้วยน้ำหนักเปียก 190 กก. และความสูงเบาะ 795 มม. การออกแบบที่เบาและกะทัดรัดทำให้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและผู้ขับขี่ที่เป็นผู้หญิง

ระบบเบรกหน้าเป็นคาลิปเปอร์ Nissin แบบเรเดียล 4 ลูกสูบพร้อมดิสก์เบรกคู่ขนาด 296 มม.

ระบบเบรกหลังเป็นดิสก์เบรกเจาะรูเดี่ยวขนาด 240 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว Nissin

โช้คหน้าหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาด 41 มม.

สรุป

แม้ว่า CB 750 Hornet ปี 2025 จะไม่ได้เปลี่ยนรุ่นทั้งหมด แต่มันก็มีวิวัฒนาการจากเจเนอเรชันแรกในด้านรูปลักษณ์ อุปกรณ์ที่ครบครัน และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัย สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหารถสตรีทไฟท์เตอร์รุ่นกลางที่ผสานการควบคุมที่คล่องตัว เครื่องยนต์ที่กระฉับกระเฉง และการใช้งานในชีวิตประจำวัน Hornet ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ รถรุ่นนี้ได้วางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในฮ่องกงแล้ว และนอกจากสีน้ำเงินที่เปิดตัวในรุ่นนี้แล้ว ยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกอีก เช่น สีดำ สีขาว และสีเงิน

※บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Two Wheel Rider ฉบับเดือนสิงหาคม 2025

มอเตอร์ไซค์ HONDA : https://thai.webike.net/mf/honda-00

ดูอะไหล่และอุปกรณ์เสริม HONDA CB750 HORNET : https://thai.webike.net/mt/honda-cb750-hornet-15009

• CB750 Hornet, honda, webike, สินค้าอะไหล่แต่ง