รีวิว: KTM DUKE250 และ RC250 เท่ ขับง่าย และไม่แพง
- 08/04/2016
1,218 views
หลังจากที่ KTM เปิดตัวคู่แฝด DUKE250 และ RC250 ไปเมื่อปีที่แล้ว
ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่เบื่อๆ รถญี่ปุ่น 250cc แล้วคู่แฝด KTM 250 นี้จะเป็นตัวเลือกแรกๆเลยที่คนจะนึกถึง
วันนี้เรามีโอกาสได้มาลอง 250 ทั้งสองตัวนี้ ลองไปดูกันเลยครับว่าจะเหมือนจะต่างกันอย่างไรบ้าง
สาเหตุที่ผลิต 250cc นี้ขึ้นมาก็เพราะในบางประเทศหากขับรถขนาดเกิน 390cc จะต้องมีใบอนุญาติอีกแบบหนึ่ง รวมทั้งแฟนๆต่างบอกกันว่าตัว 200cc ที่ทำมาก่อนหน้านี้ยังแรงไม่พอ เลยเป็นเหตุให้ 250cc ทั้งสองนี้ถือกำเนิดขึ้นมา
ดีไซน์
ทั้งสองมีดีไซน์ที่ต่างกันในเรื่องของสไตล์การใช้งานและรูปลักษณ์โดย DUKE จะมาสายโมตาดหลังตรง พร้อมแฮนด์บาร์ Moto-X แบบกว้าง ในขณะที่ RC จะทำมาเหมือนรถแข่งที่ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเวลาขับ
ทั้งสองรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาโดยเน้นเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานเป็นหลัก โดยเครื่องยนต์เป็น DOHC 4 วาล์ว 31แรงม้า 24Nm ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงและน่าพึงพอใจมากๆสำหรับรถขนาด 250cc ทำให้สามารถใช้งานได้บนท้องถนนทั่วไป หรือแม้แต่บนทางด่วนก็ยังขับขึ้นได้สบายๆ
เครื่องยนต์
ถึงเครื่องยนต์ทั้งสองจะเหมือนกัน แต่หลังจากลองทดสอบวิ่งดูและเช็คจากกราฟแล้วปรากฏว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง Duke จะมีอัตราการเร่งที่ดีกว่า ส่วนเครื่อง RC เวลาเร่งและเปลี่ยนเกียร์จะลื่นกว่ามาก
ตัวเลขที่วัดได้ข้างต้นมาจากระบบเกียร์และสเตอร์ที่ใช้ Duke จะใช้ 15:45 สำหรับอัตราการเร่งที่ดีกว่า ในขณะที่ RC จะเป็น 14:46 เพื่อให้ได้ความเร็วในตอนท้าย ทั้งสองรุ่นมี PASC slipper clutch ที่ถือว่าเป็นประโยชน์มากเพราะช่วยไม่ให้ล้อหลังล็อคและท้ายปัดขณะเชนเกียร์ เพราะยางล้อหลังของทั้งสองเล็กมาก
พอมาขับรถทั้งสองจึงรู้ว่าความรู้สึกที่ได้นั้นต่างกันอยู่มากทั้งกายมองเห็นและอื่นๆ เพราะเบาะของ Duke สูง 800มม. ส่วน RC จะยกตรงก้นขึ้นหน่อยเลยสูง 820มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้าและหลังของ Duke อยู่ที่ 1,367มม. โดยที่ RC จะสั้นกว่า ระยะห่างจะอยู่ที่ 1,340มม.
การเข้าโค้ง
หลังจากที่ลองไปขับตามเขาดูแล้ว พบว่าเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ Duke จะสั่นหน่อยๆ กลับกัน RC เข้าโค้งง่ายมาก สามารถคุมแฮนด์ได้สบายๆทั้งที่ใช้ความเร็วระดับเดียวกันกับ Duke แต่ถ้าพูดถึงความแม่นยำและไลน์เวลาเข้าโค้งแล้วติดๆกัน Duke จะดีกว่า RC เพราะท่านั่งหลังตรงทำให้ทรงตัวง่ายกว่า แต่ RC จะเด่นกว่าเวลาเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
โช๊ค
ถัดมาที่เรื่องโช๊ค โช๊คหลังของทั้งสองจะเหมือนกัน แต่จะต่างกันที่โช๊คหน้า โดยช่วงยุบตัวของ Duke เป็น 150มม. ส่วน RC จะเป็น 125มม. ซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่เพราะอย่างไรก็ตาม สไตล์การใช้งานก็ต่างกันอยู่แล้ว หากต้องการจะปรับ preload จะสามารถทำได้ที่โช๊คหลังที่เดียว ส่วนโช๊คหน้านั้นทางผู้ผลิตตั้งใจทำมาให้ปรับไม่ได้เพราะโช๊คหน้าถูกออกแบบมาให้เหมาะแก่การใช้งานทุกรูปแบบอยู่แล้ว
เครื่องยนต์ของ 250cc นี้ถึงจะแรงแต่จุดที่พลาดไปคืออัตราแรงบิด ซึ่งหากต้องการให้รถมีประสิทธิภาพขั้นสูงได้ตามอัตราการเร่งที่เราต้องการ ผู้ขับจะต้องมีความชำนาญในการเปลี่ยนเกียร์ และเล่นรอบอย่างมาก
เบรค
เบรคของทั้งสองคันใช้ของ Bybre ที่แท้จริงแล้วก็คือของ Brembo นั่นเอง เพียงแต่แยกออกมาทำเป็นอีกแบรนด์สำหรับรถเล็ก ล้อหน้าจะเป็นดิสก์เบรคขนาด 300มม. พร้อมรีไดอัลคาลิปเปอร์ 4 พอต ส่วนดิสก์เบรคหลังจะมีขนาด 230มม. พอตเดียว หลังจากลองขับดูแล้วคิดว่าเบรคหน้าอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วโดยไม่ต้องใช้เบรคหลังช่วย ยกเว้น RC ที่ถ้ามาเร็วจริงๆถึงต้องใช้เบรคหลังช่วยนิดหน่อย
แรงสั่นจากเครื่องยนต์ถือว่าไม่ได้สั่นมากนัก สำหรับ Duke จะสั่นหน่อยๆบริเวณแฮนด์บาร์ ส่วนของ RC จะสั่นตรงพักเท้าแต่ถ้านักขับใส่รองเท้าบู๊ทและถุงมือสำหรับขับขี่โดยเฉพาะก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่ามือหรือเท้าจะชาเพราะแรงสั่น
อุปกรณ์อะไหล่และระบบ
ทั้งสองมีอุปกรณ์อะไหล่ และระบบที่เหมือนๆกันอย่าง เรือนไมล์ LCD ตำแหน่งเกียร์ อัตราการเผาผลาญน้ำมัน จะต่างกันก็ตรงที่สไตล์ของรถระหว่างสายสตรีทโมตาด กับแนวรถแข่ง Duke มีน้ำหนัก 139 กก. RC จะหนัก 147 กก. และขนาดของถังน้ำมัน Duke จุได้ 11 ลิตร ส่วน RC จะจุได้ 20 ลิตร ซึ่งสามารถขับได้ประมาณ 200 กม. แต่ถ้าใช้งานจริงๆ Duke อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเนื่องด้วยมีเกียร์ที่สูงกว่า
ไฟหน้าของ Duke จะเป็นไฟฮาโลเจนไว้ส่องสว่างโดยเฉพาะ ส่วน RC เป็นทวินโปรเจคเตอร์ DRL
หากต้องการอุปกรณ์แต่ง KTM ทั้งสองนี้ก็หาไม่ยาก เพราะมีจำหน่ายที่ KTM โดยสามารถดูได้จากแค๊ตตาล็อคของ KTM จะมีทั้งก้านเบรค และเกียร์โยงรวมอยู่ด้วย
ต้องการซื้อสินค้าอ่ะไหล่แท้ อะไหล่แต่งและอุปกรณ์มอเตอร์ไซค์ ?
- • เลือกซื้อ อะไหล่มอเตอร์ไซค์ KTM
ขอขอบคุณข้อมูลจาก paultan
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย >>สมัครสมาชิก<<
ท่อแต่ง Honda CB1300SF สุดเก๋า จาก BEAMS
สัมผัสประสบการณ์การเดินทางกับ “ยามาฮ่า” ในงาน Vietnam Motorcycle Show 2016