MV Agusta จับมือกับ Lewis Hamilton แชมป์ Formula One 3 สมัยออกรถลิมิเต็ดคอลเลคชั่น “DRAGSTER RR LH44” เพียง 244 คันทั่วโลก ซึ่งวางแผนจะเปิดตัวที่ประเทศ ญี่ปุ่น ภายในปีนี้

MV AGUSTA × Lewis Hamilton กับความสำเร็จที่งดงามภายใต้ชื่อ “VICTORY” รหัส LH44!!

 

Lewis Hamilton นักขับ Formula 1 และ DRAGSTER RR  เป็นการรวมตัวของสองสิ่งที่มาพร้มความแรงในตัวเองและการผสานกันของรายละเอียดที่สมบูรณ์ลงตัวทุกองศาที่ได้เห็น ซึ่งความ “สมบูรณ์แบบ และ ชัยชนะ” ของทั้งสองสิ่งนี้จะดึงดูดให้ตัวคุณหลงไหล และพร้อมจะนำคุณทยานไปสู่ความเป็นตำนาน ไม่มีคำเรียกใดที่จะเหมาะสมมากไปกว่าคำว่า “Dragster RR LH44”

DRAGSTER RR เป็นรถที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยมือมีความงดงามเป็นเลิศและถือเป็นงานศิลปะแห่งวงการรถจักรยานยนต์ของโลก ฉะนั้นมันจึงมีความพิเศษแบบสุดๆ และเป็น Rare Item ของบรรดานักสะสมทุกๆ คน

Lewis Hamilton ได้รับการติดต่อจาก Castiglioni Research Centre (ศูนย์วิจัยหลักของ MV AGUSTA) ร่วมสร้างสุดยอดรถ ซึ่งใช้เวลาร่วมๆ เดือนในการสร้างสรรค์และเลือกอุปกรณ์ตกแต่งระดับ luxury กราฟิกโทน Black Panther ดุดัน และที่สำคัญยังได้สี  Pearl White จากตัวหมวกกันน็อคเบอร์ “44” ของ Hamilton มาแต่งแต้มบนรถตัวนี้อีกด้วย ช่วงหน้ารวมทั้งสวิทช์กุญแจเป็น งานฝีมืออย่างแท้จริง พร้อมกับ Feature อื่นๆอีกนับไม่ถ้วนเรียกได้ว่าเป็นรถที่เหมาะแก่การจัดแสดงและสะสมเป็นอย่ามาก

เจ้า “LH44” นี้ตัวเบาะทำจากวัสดุชั้นเยี่ยมอย่าง Alcantara ชิ้นส่วนตัวรถทำมาจากวัสดุ Igaru ก้านเบรค, การ์ดเฟรม, การ์ดเครื่องยนต์, ฝาน้ำมันต่างๆ, รวมถึงฝาปั้มเบรค ทำจาก Anodized สีแดงพิเศษ นอกจากนี้ในส่วนของแฮนด์ clip-on, พักเท้ารวมถึงตัวเฟรมของรถยังเคลือบมาด้วยสีดำอีกด้วย

เช่นเดียวกับรถ F1 เจ้า “LH44” นั้นชุดสีทั้งตัวเป็นคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาจาก 3K นอกจากนี้บังโคลนหน้าหลัง, ชิลด์หน้า, ฝาครอบช่องอากาศ, ฝาครอบข้าง, ครอบท่อ, ฝาครอบเกียร์, ครอบสวิงอาร์ม และครอบบังสเตอร์ ยังเป็นวัสดุที่มีราคาแพงมากๆ อีกด้วย ซึ่งตัวรถนั้นมี ID ระบุหมายเลข 44 จำกัดเพียง 244 คันเท่านั้น พร้อมสลักชื่อ Black Panther และ  Hamilton อยู่ด้านหน้าของตัวรถ

 

BRUTALE 800 DRAGSTER RR LH44

ชื่อโมเดล: MV AGUSTA “BRUTALE 800 DRAGSTER RR LH44” ราคาและวันที่วางจำหน่าย: ¥ 3,391,200 (รวมภาษี) พร้อมออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคมโมเดล limited edition: เพียง 244 คัน

 

Features หลักของ “BRUTALE 800 DRAGSTER RR LH44”

 

■ เครื่องยนต์

MV AGUSTA เป็นเครื่อง 3 สูบเรียงซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องของมาตฐานทางพละกำลังเป็นอย่างมาก และเป็นเทคโนโยีจากประเทศ อิตาลี โดยแท้ที่ถูกถ่ายทอดมาจากอดีตผ่านการพัฒนามาสู่ MV AGUSTA และปรับจูนให้ได้ประสิทธิภาพที่มากที่สุด BRUTALE 800 และ BRUTALE 800 DRAGSTER  นั้นสาารถรีดแรงม้าออกมาได้ 140 แรงม้าที่ 13,100 รอบต่อนาที ฉะนั้นมันไม่เพียงแต่มีเอกลักษณ์เท่านั้นแต่มันยังสะดุดตาคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันอีกด้วย

 

 

รถในคลาสคอมแพ็คน้ำหนักเบาอย่าง MV AGUSTA, F3 800 ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้นก็ใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันนั่นแสดงให้เห็นว่ารถจากค่าย MV Agusta นั้นถูกพัฒนามาอย่างมีประสิทธิภาพนั่นคือเป้าหมายที่พวกเขาตั้งเอาใว้กับตัว BRUTALE 800 DRAGSTER RR นั่นเอง ซึ่งตัวเครื่องยนต์นั้นมีน้ำหนักที่เบาเพียง 52 กก. เท่านั้น ฉะนั้นมันจึงส่งผลต่อการกระจายน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพของตัวรถเป็นอย่างมาก อีกทั้งเครื่องยนต์นั้นมีความแข็งแรงพร้อมได้รับการพิสูจน์ความเป็นเลิศจากวิศวกรชาวอิตาลีจึงมั่นใจได้ว่าเจ้า BRUTALE 800 DRAGSTER RR นันเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก การทำงานของเครื่องยนต์ที่ไม่ล้าจนเกินไปด้วยระบบโซ่ราวลิ้นแบบไฮโดรลิคทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เงียบมากยิ่งขึ้น พร้อมการออกแบบใหม่ของชุดรับอากาศที่มีประสิทธิภาพทำการเผาไหม้ทำได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นระบบหัวฉีดได้ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้แบบ 6 หัว (2 หัวต่อสูบ) ทำให้กำลังของเครื่องยนต์ทำงานนิ่งในรอบต่ำถึงกลางและจัดจ้านในรอบสูง

เครื่องยนต์แบบ 3 สูบ นี้จะสามารถเร่งความเร็วรอบไปแตะที่ 13,200 รอบต่อนาทีซึ่งทำให้ได้แรงบิดที่ 81 ถึง 85 นิวตันต่อเมตร (เครื่องเดิมๆ) ด้วยเกียร์เมนวล 6 สปีด และยังรองรับการใช้งานแบบเซอร์กิตได้อีกด้วย

 

■ อิเล็คทรอนิค

ชุดควบคุมอิเล็คทรอนิครุ่นที่สองแห่งสำนัก  MVICS (Motor & Vehicle Integrated tee de control system) ถูกนำมาติดตั้งและปรับจูนให้เหมาะกับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 800 ซีซี คันนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมันสามารถทำงานได้ดีตั้งแต่รอบต่ำจนถึงรอบสูงทำให้การเผาไหม้นั้นสมบูรณ์ไร้มูลพิษ และสามารถรีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องยนต์ออกมากได้มากที่สุดอีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

 

 

ระบบควบคุมการจุดระเบิด MVICS ของ “Eldor EM2.0” ที่มาพร้อม ECU นั้นทำงานร่วมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงจาก Mikuni ควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิงด้วยสายคันเร่ง ในขณะเดียวกันเครื่อง 3 สูบของ  MV AGUSTA นั้นสามารถปรับระบบแบบสปอร์ตได้ถึง 4 รูปแบบ และ 3 รูปแบบสำหรับการขับขี่แบบพื้นเปียก สามารถกำหนดโหมดสำหรับการตอบสนองของเครื่องยนต์และปรับตั้งลิมิตของรอบ, การตอบสนองของแรงบิด, การตอบสนองของอัตราเชื้อเพลิงรวมถึงการปรับตั้งเอ็นจิ้นเบร็ค (Engine brake) นั้นก็สามารถทำได้ เจ้า BRUTALE 800D RAGSTER RR นั้นติดตั้งระบบ แทรกชั่นคอนโทรล ( Traction Control ) การควบคุมได้ถึง 8 ระดับ สำหรับใช้ในการควบคุมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด และยังมาพร้อมระบบ Quick Shifter “EAS2.0” ซึ่งทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงได้ง่ายและนุ่มนวลทำงานร่วมกับระบบเปลี่ยนเกียร์แบบอิเล็คโทรนิคคอนโทรล, ชุดคลัทช์แบบใหม่ทำให้การควบคุมการเข้าเกียร์ราบลื่นขึ้น ไม่เพียงแต่ในเซอร์กิตเท่านั้นแต่มันสามารถใช้ประโยชน์ที่ดีบนท้องถนนอีกด้วย

 

■ Chassis

ขนาดของ BRUTALE 800 DRAGSTER RR นั้นใกล้เคียงกับ BRUTALE 800 DRAGSTER พัฒนาภายใต้มาตรฐานของ Naked Sport Bike ระยะห่างฐานล้อ 1,380 มม. กว้าง 95 มม. ยางหลัง Pirelli Diablo Rosso II 200/50 โครงถักอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมสวิงอาร์ม ALS Steel Pipe

 

 

 

ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบหัวกลับ (Upside Down) ของ Marzocchi ขนาด φ43 มม. น้ำหนักเบาปรับตั้งได้ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลมาพร้อมโช็คกันสะบัดใหม่ล่าสุด CRC Steering Damper เหมาะกับการใช้งานทั้งในเซอร์กิตและบนท้องถนนทั่วไป กระบอกโช็คเป็น Anodized สีแดง แกนโช็คเคลือบด้วยคาร์บอนเพชร DLC (diamond-like carbon)  โช็คหลังของ  Sachs ปรับตั้งได้ขนาด 125 มม. ความสูงจากพักเท้าถึงเบาะอยู่ที่ 811 มม. ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ระบบห้ามล้อมาพร้อมกับเบรคจาก Brembo คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบดิสเบรคขนาด  φ320 มม. หลัง 220 มม. คาลิปเปอร์คู่พร้อมระบบ ABS เพื่อความปลอดภัย ล้อแบบซี่ลวดขึ้นด้วยมือวัสดุเป็น Anodized สีดำ, ขาว และแดง ส่วนกราฟิกของรถตัวนี้นั้นเป็นงานแบบไฮไลท์หลายเลเยอร์ใช้วัสดุแม่สีชั้นหรูหราจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ความเป็นเอกลักษณ์ของ BRUTALE 800 DRAGSTER คันนี้มาพร้อมขุมพลังแห่งสัตว์ร้ายและสวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากที่ใครจะเทียบเท่าแน่นอน!!

 

Related News [BRUTALE 800 DRAGSTER RR LH44] [BRUTALE 800 DRAGSTER RR LH44 EICMA]

 

ขอบคุณข้อมูลจาก [MV Agusta JAPAN]