Maverick Vinales: จากเด็กปั้นเจ้ดัน “Paris Hilton” สู่ดาวจรัสฟ้าในระดับพรีเมียร์คลาส MotoGP!!

ท็อปกัน Maverick Vinales ซุปเปอร์สตาร์ดวงใหม่แห่งวงการ MotoGP ที่กำลังมาแรงเทียบชั้นบรมครูอย่าง Valentino Rossi, Marc Marquez และ Jorge Lorenzo คนนี้อาจดังไม่ได้เลยหากวันนั้นเขาไม่ไปถูกตาต้องใจกับเจ้ใหญ่สายเปย์นมปะลึ่มหึ่ม "Paris Hilton" เข้าให้!!

ปี 2011 - เป็นปีแห่งการก้าวเข้าสู่เวทีโลก กับเจ้นมโต Paris Hilton

หลังจากปีนป่ายสู่ระดับโลกในรุ่นจูเนียร์  European 125cc และ CEV Buckler 125GP ในปี 2010 ได้ ตัวเขาก็ได้อัพเกรดความสามารถขึ้นไปอีกขั้นด้วยการร่วมงานกับสาวสวยชาวอเมริกัน Paris Hilton ภายใต้ชื่อ Pev-Blusens-SMX-Paris Hilton (สังกัด Blusens Avintia Team) และในปีถัดมาในฤดูกาล 2011 ตัวเขาเองก็สามารถคว้าตำแหน่งรองอันดับสองรุ่น 125cc world championship มาครองได้สำเร็จ ด้วยการคว้าชัยถึง 4 สนาม และขึ้นโพลเดียมถึง 5 ครั้งด้วยอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

ในปี 2012 - เกิดผลกระทบขึ้นกับทีม Blusens Avintia

มุ่งหน้าสู่การไล่ล่าแชมป์ Moto3 ในปี 2012 สำหรับตัว Vinales นั้นถือว่าเปิดฤดูกาลมาได้อย่างร้อนแรงมากในปีนั้นด้วยการคว้าแชมป์ไปถึง 5 สนามจาก 9 สนามในช่วงต้นฤดูกาลแรก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหลังตัวเขาคว้าแชมป์มาได้เพียงสนามเดียวเท่านั้นจาก 8 สนาม และนั่นมันส่งผลให้ตัวเขาเกิดความหงุดหงิดจนเป็นเหตุให้เขาเดินออกจากการแข่งขันในรายการ Malaysian GP และเป็นสุดสัปดาห์ที่แย่ที่สุดของทีม Blusens Avintia ซึ่งถือว่ามาถึงยุคมืดหม่นของทีมจริง ๆ ในปี 2013 ตัวเขาได้รับโอกาสให้ขึ้นไปฟัดในรุ่น  Moto2 แต่ตัวเขาเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับทีมอื่นในรายการเดียวกันนี้คือ Moto3

ในปี 2013 – กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยตำแหน่งแชมป์ Moto3 

Maverick Vinales ย้ายซบอก Calvo KTM Team และได้ยืนโพลเดียมทั้ง 10 สนามในครึ่งฤดูกาลแรก พร้อมคว้าชัยในสนาม Jerez และ Le Mans ส่งผลให้ตัวเขาคว้าแชมป์ Moto3 ในฤดูกาล 2013 มาครองได้แบบฉิวเฉียดด้วยคะแนนนำ Alex Rins และ Luis Salom เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในปี 2014 – อัพเกรดเลเวลสู่เวที Moto2 กับ Pons Racing Team

หลังจาก 3 ฤดูกาลแรกตัวเขาก็ได้ก้าวเข้าสู่เวทีที่มีระดับสูงขึ้นอย่าง Moto2 ด้วยการร่วมทีมกับคู่ปรับเก่าอย่าง Luis Salom ภายใต้ทีม Pons Racing และสามารถคว้ารองแชมป์อันดับที่ 2 มาครองได้สำเร็จก่อนจะก้าวขึ้นสู่ MotoGP กับทีมโรงงานจากค่ายคนบ้า  Suzuki Ecstar MotoGP Team ในปี 2015

ในปี 2015 – แจ้งเกิดนักบิดหน้าใหม่กับพรีเมียร์คลาส MotoGP

หลังจากห่างหายไปหลายปีบนเวที MotoGP ในที่สุด Suzuki ก็หวนคืนรังอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็ได้นักแข่งหน้าใหม่เข้ามาร่วมสานฝันด้วยกันภายได้ชื่อ Suzuki Ecstar MotoGP Team และในปีเดียวกันนั้นหรือปีแรกของ Suzuki พ่อหนุ่มหน้าละอ่อน Maverick Viñales คนนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังสามารถพาทีมขึ้นไปติดท็อป 10 ได้สำเร็จ และถือเป็นเกียรติประวัติของนักบิดหน้าใหม่คนที่ 3 ที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการ 125cc ในปี2011 และ Moto2 ในปี 2014 มาได้ และตลอดฤดูกาล 2015 นั้นตัวเขาไม่จบการแข่งขันเพียง 2 สนามเท่านั้น

ในปี 2016 – Vinales กลับมาพา Suzuki ขึ้นสู่ระดับท็อปได้อีกครั้ง

ในปี 2016 พ่อหนุ่มท็อปกัน Maverick Viñales ก็สามารถจบการแข่งขันด้วยอันดับสูงสุดบนโพลเดียมถึง 2 ครั้งด้วยกัน และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ตามหลังรุ่นใหญ่อย่าง Jorge Lorenzo จบฤดูกาลจึงได้ย้ายเข้าสังกัดทีมโงงาน Yamaha แทน Lorenzo ที่ย้ายออกไปค้นหาความท้าทายใหม่ในเสื้อสีแดงกับ Ducati Team

2017 – แชมเปี้ยนคนใหม่กำลังจะถือกำเนิด หรือเปล่า???

เปิดตัวมาได้อย่างสมบูรณ์เหลือเกินตั้งแต่รอบวินเทอร์เทส ที่สามารถคลิ๊กกับเจ้า M1 ได้อย่างกับเป็นกิ่งทองใบหยกสยบทู่คู่สายตาที่จับจ้องมองเจ้าเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสนาม Valencia, Sepang, Phillip Island และ Losail และในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับออกสตาร์ทที่สนาม Qatar แห่งนี้นั้น ก็ไม่พ้นเจ้าตัวเช่นเคยที่สอยโพลโพซิชั่นมาครองได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าใดนัก และในที่สุดเจ้าตัวก็เปิดประเดิมชัยแรกให้กับตัวเองในบ้านหลังใหม่ไปได้อย่างสวยงาม และถือเป็นนักแข่งหน้าละอ่อนอีกคนหนึ่งที่สามารถคว้าชัยเมื่อย้ายเข้าสังกัดทีมใหม่ได้

เราจะตามกันต่อไปว่าหนุ่มสเปนคนนี้จะสร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งใดให้เราได้ชมกันอีก!!

ขอบคุณ : www.crash.net