CBR1000RR SP 2017 มาพร้อมเฟรมรถใหม่ และชุดอิเล็คทรอนิกส์ที่รองรับการขับขี่อย่างเต็มระบบไม่ว่าจะเป็น ระบบ Traction control, ระบบ Brake control และระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Quick shifter ทั้งขึ้นและลง
โดยรูปทรงของตัวรถนั้นยังคงความเป็นรูปทรงเลขาคณิตแบบ CBR แต่ใช้เฟรมแบบใหม่ที่บางกว่าเดิมจึงทำให้ลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 300 กรัม ในส่วนของสวิงอาร์มเองก็ถูกกำจัดความหนาออกไปทำให้ลดน้ำหนักลงได้อีก 300 กรัม และซับเฟรมก็ลดลงไปได้เยอะถึง 600 กรัมเลยทีเดียว แฟริ่งได้รับการออกแบบมาให้มีความโฉบเฉี่ยว เล็กลง และยกสูงขึ้นกว่าเดิมหน่อยเพื่อให้ลู่ลม ตัว SP จะมีถังน้ำมันเป็นไทเทเนียม
เครื่องยนต์ได้ลูกสูบใหม่มาทำให้ค่าสูงขึ้นเป็น 13.0:1 จาก 12.3:1 พร้อมแหวนลูกสูบที่ชุบคาร์บอนแบบ DLC ทำให้ทำรอบได้ถึง 13,000 rpm ซึ่งแรงม้าจะมากกว่าเดิมถึง 10hp ทำให้ดูมีพลังมากขึ้นเยอะ เพราะแต่ก่อนแรงรถจะสู้พวก S1000RR กับ RSV4 ไม่ค่อยได้ นอกจากนั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งรถที่มีน้ำหนักเบาขึ้นไปอีกส่วนประกอบของสลิปเปอร์คลัทช์จึงใช้แมกนีเซียมในการผลิตทำให้ลดน้ำหนักไปได้ถึง 2 กิโลกรัม อีกทั้งท่อไทเทเนียม และแบตลีเธียมที่ช่วยลดน้ำหนักของรถไปได้อีกมาก
มาถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถคันนี้กันบ้าง ทางฮอนด้านำเสนอระบบ TC ถึง 9 ระดับด้วยกัน มีทั้ง Honda Selectable Torque Control (HSTC) และระบบตรวจจับท่านั่งที่พัฒนามาจากเจ้าหุ่นยนต์ ASIMO นั่นเอง ระบบอื่นๆก็จะมี wheelie control ระบบกันท้ายปัด และระบบอื่นๆอย่างปรับระดับเบรค ปรับควิกชิพเตอร์ เป็นต้น
ระบบการขับขี่มีด้วยกัน 5 โหมดคือ โหมด 1 2 3 และ User 1 กับ 2 โดยแบบหลังที่สามารถตั้งค่าได้ว่าต้องการ TC แบบไหนบ้าง โดยรวมแล้ว SP จะเบากว่าถึง 15 กก. และแรงรถจะมากขึ้นถึง 14% น้ำหนักของคันนี้จึงจะอยู่ที่ 195 กก. ซึ่งก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
ทีนี้เราก็ต้องมาคอยดูกันว่าคันนี้จะสามารถมาเทียบกับ R1 ได้หรือไม่ เพราะอย่าง GSX-R1000 ของซูซูกิก็กำลังมาแรงอยู่เหมือนกัน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Honda และข้อมูลจาก cycleworld.com