ตำนานแห่ง Fireblade หวนคืนบังลังก์ CBR900RR FIREBLADE นั้นถูกปล่อยออกมาในปี 1992 และถือได้ว่าเป็นรถที่มีความแข็งแกร่งที่สุด และเร็วที่สุดในยุคนั้นด้วยขนาดเครื่องยนต์ 893 ซีซี ที่สามารถสร้างแรงม้าสูงสุดออกมาได้ 124PS และมีน้ำหนักตัวรถโดยรวมอยู่เพียง185 กก. เบากว่ารถขนาด 1 ลิตรด้วยกันถึง 40 กก. พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมชุดคอนโทรลรถที่สุดเพอร์เฟคอีกด้วย ซึ่งนับเวลาจากปีที่เปิดตัวถึงปัจจุบันก็ไปเข้าไปแล้ว 25 ปี และในปี 2016 นี้ CBR1000RR-SP จะกลับมาสานต่อเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่นั้นอีกครั้ง

 

สำหรับโฉมใหม่ 2017 นี้จะเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ 25 ปีนับจากการถือกำเนิดของ CBR900RR และ CBR1000RR จะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบใด ๆ  แต่มันจะเป็นการถือกำเนิดใหม่เพื่อกลับมาทวงความเป็นหนึ่งในด้านความเร็วอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเปิดตัวออกมาในปลายเดือน กันยายน หรือ ตุลาคม ภายในปีนี้

 

อีกทั้งโฉมใหม่นี้ยังจะมาพร้อมน้ำหนักที่เบาแบบพิเศษเพียง 197 กก. และสามารถสร้างแรงม้าออกมาได้ถึง 180PS และในส่วนของตัว SP จะสามารถผลิตแรงม้าออกมาได้ถึง 190PS รวมถึง 217PS ด้วยชุดแต่งเพิ่มประสิทธิภาพ แต่จุดหลักใจความสำคัญคือเรื่องของน้ำหนักที่เบา และมีความสมดุลเป็นอย่างมากตามสายเลือด RR นั่นเอง

 

พร้อมด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องยนต์จากสนามแข่งระดับโลกอย่าง MotoGP ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากตัวแข่ง RC213V มาสู่ตระกูล RR คันนี้

 

และยังไม่หมดแค่นั้นมันยังได้รับการสืบทอดรูปแบบของไฟหน้าคู่ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่างยามค่ำคืนอีกด้วย ตามแบบฉบับของ RR เป๊ะ ๆ

 

สำหรับ CBR1000RR-SP ตามคาดการณ์นั้น มันจะปรากฎต่อสายตาชาวโลกราว ๆ ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) ปี 2016 นี้ และราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเยน ซึ่งตามคาดการณ์นี้มีความเป็นไปได้ถึง 100% เลยเชียวหล่ะ

 

ตามคาดการณ์จากภาพ CG เจนใหม่นี้จะเป็นเจนที่ 13 ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ตระกูล RR ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ตลอดจนการสืบทอดลักษณะเฉพาะตัวของเจนแรกที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีด้วยน้ำหนักของตัวรถที่เบา และมีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือชุดไฟหน้าตาคู่ที่ดูโดดเด่น อีกทั้งโฉมใหม่นี้ยังมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่อยู่ทั้งสองข้างทางด้านหน้า พร้อมการออกแบบตัวรถที่ดูโฉบเฉี่ยวสวยงามมากยิ่งขึ้น

 

ทางด้านคุณสมบัติพิเศษต่างของ CBR1000RR-SP

เฟรม : ยังคงใช้เฟรมอลูมิเนียมบนพื้นฐานเดิมที่ถูกออกแบบ และใช้กันมานานถึง 8 ปี

ระบบกันสะเทือนหลัง : โช็คเดี่ยว Unit Pro-Link ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุม Engin brake และรายงานผลไปยังจอมอนิเตอร์

ท่อไอเสีย : ท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงด้านมลพิษ และเสียงรบกวนมาอย่างดีตามกฎ Euro 4

ระบบสมองกล ECU : ใช้ระบบเซ็นเซอร์แบบ 6 แกนที่ R1 ได้ใช้มาก่อนหน้านี้เป็นคันแรก ซึ่งจะช่วยให้การส่งสัญญาณต่าง ๆ ของตัวรถรวมทั้งการควบคุมที่แม่นยำฉับใวยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรหัส RR ตัวนี้ให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นไปอีก

ระบบลิ้นปีกผีเสื้อ : เป็นลิ้นปีกผีเสื้อที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้การเปิดคันเร่งทำได้เต็มที่ พร้อมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการเปิดปิดคันเร่งได้อีกด้วย

เครื่องยนต์ : ตัวฝาสูบที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ พร้อมวัสดุที่ดีขึ้น ซึ่งจากเดิมที่เป็นไทเทเนียมเฉพาะวาล์วไอดี ตัวใหม่นี้ฝั่งวาล์วไอเสียเองก็เป็นไทเทเนียมเช่นเดียวกัน

ล้อ : วงล้ออลูมิเนียมคุณภาพสูงน้ำหนักเบาหล่อขึ้นรูปจาก Marchesini

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Young Machine

 

โปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษประจำสัปดาห์