Honda RC213V-S ทดสอบขับขี่จริงเจ๋งแค่ไหนต้องอ่าน!!

  • 14/06/2016
  •  1,394 views

 

เมื่อวันก่อนผมได้รับอณุญาตให้ทำการทดสอบขับขี่เจ้ารถสนามแข่งอย่าง Honda "RC213V-S" ในเซอร์กิต กับอิเว้นท์ของนิตยสารสองล้อ ซึ่งเจ้ารถคันงามคันนี้เป็นของคุณ มัตซึบาระ ประธานบริษัท RS Taichi เราจะมาทำให้มันสุด ๆ ไปเลยกับ ประสบการณ์ของผู้คนที่เข้ามาร่วมในเซอร์กิตนี้ ควบคู่ไปกับความใจกว้างอย่างจริงใจของผู้ให้ทดสอบ ยังไม่ทันหายตื่นเต้นหลังจากที่ขับไปได้ไม่กี่รอบสนาม Motegi แห่งนี้ก็ดูแคบขึ้นมาถนัดตา

 

ความพิเศษของมันเป็นอย่างไร

อย่างที่คุณ ๆ ก็รู้กันว่า "RC213V-S" ในรายการแข่ง MotoGP นั้นมันเป็นรถแข่งที่เจ๋งที่สุด ๆ ของโลกในฤดูกาล 2013 ควบมาถึงฤดูกาล 2014 และ "RC213V" แชมป์เปี้ยนโลกติดต่อกัน 2 สมัย ก็ถูกปรับปรุง และเปลี่ยนสเปคบางอย่าง ทำให้มันสามารถออกมาโลดแล่นบนท้องถนนได้ พูดง่าย ๆ ก็คือมันมีไฟหน้าที่เพิ่มเข้ามา และติดตั้งแผ่นป้ายทะเบียน โดยใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับ MotoGP

 

 

การที่ Honda  ยอมปล่อยเทคโนโลยีจากสนามแข่งมาสู่รถตลาดนั้น "เพื่อให้ผู้คนได้ใช้เครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อชัยชนะในการแข่งขัน MotoGP สู่ท้องถนนสาธารณะได้" อย่างครั้งนี้เป็นต้น และนอกจากนี้ก็มีนักแข่งที่ใช้อะไหล่ตกแต่งที่แตกต่างออกไป (ของปลอม) เพื่อให้มันดูเหมือนตัวจำลองการแข่งขันมากที่สุด แต่ในบทความนี้เป็นของจริงนะ!!

 

ดังนั้นรถแข่งสำหรับ MotoGP จะต้องมีความสมดุลพร้อมการกระจายน้ำหนักของตัวรถ (Mass Centralization) ที่ดี และการลดแรงเสียดทานของตัรถรวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวเครื่องยนต์ที่ดีด้วย จึงกล่าวได้ว่าวิทยการด้านระบบควบคุมนั้นต้องดีจริง ๆ นอกจากนี้ องค์ประกอบที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างการผลิตรถตลาดเช่น "น้ำหนักของอะไหล่, ตวามแม่นยำของเครื่องจักรในขั้นตอนการทำงาน" หรือแม้แต่ "ทักษะขั้นสูงในขั้นตอนการผลิต" และนี่สิ่งที่พูดถึงความพิเศษของมันได้เป็นอย่างดี

 

รถเพื่อการพานิชย์ที่ได้รับการจดทะเบียนมาเพื่อ "ชัยชนะ" เท่านั้น

การปล่อยทฤษฎีที่เรียกว่า "RC213V คือการออกแบบองค์ประกอบของตัวรถที่ทำออกมาเพื่อต้องการชัยชนะเท่านั้น" และแน่นอนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ได้เป็นอย่างดี ก็อย่างที่คุณเคยได้ยินมาก่อนนั่นแหละว่า Honda นั้นพัฒนารถออกมาเพื่อหวังผลเพียงอย่างเดียวคือชัยชนะใน MotoGP ซึ่งราคาของมันนั้นสูงมาก ๆ ทีเดียว

 

บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ กับประเทศแห่งศิลปะ และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ทุ่มเทสร้างรถแข่งเพื่อชัยชนะที่ดีที่สุดในโลกของเราขึ้นมา ลองถามฝาแฝดของคุณดูสิว่าเห็นด้วยไหม!!

 

 

ความรู้สึกหลังทดลองขับขี่

ก็รู้สึกขี่เป็น "ปกติ" ดี แต่ความตื่นเต้นเริ่มเข้ามากระทบตัวก่อนที่จะทำการทดสอบซะอีก ซึ่งผมไม่ได้มีความกระตือรือร้นเฉพาะใน "ตัวปีศาจร้ายตัวนี้เท่านั้น" แต่ผมรู้สึกประหลาดใจกับการที่จะได้ขี่มันจนจบอย่างเป็นธรรมชาติด้วย

 

เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบเรียบเมื่อยามกดคลัทช์ พร้อมเสียงการทำงานที่เงียบสนิท และความประหลาดที่ปราศจากอาการโคลงเมื่อวิ่งออกไป มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่า CBR1000RR มาก โดยเฉพาะการควบคุมในช่วงการเข้าโค้งด้วยความเอียง 26 องศา และยังคงให้แรงบิดในความเร็วต่ำจึงทำให้สามารถเลี้ยวกลับรถได้แบบปกติในส่วนของสนามที่เป็นวงเวียน

 

ที่ไม่มีอย่างแน่นอนคงจะเป็น "การผลิตเพื่อการค้าแบบจริงจัง" ในด้านของการออกแบบ และซุ่มเสียงนั้นมันเป็นสิ่งมหศจรรย์มาก ๆ หวังว่ามันจะเป็นของสะสมสำหรับนักขับมือใหม่ได้อย่างไม่ยากนัก

 

ทยานสู่ความเร็วด้วยความรู้สึกดั่งสายลม

ขณะวิ่งบนเซอร์กิต เมื่อปะทะกับสายลม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่รุนแรง ถ้าคุณเปิดคันเร่งในทางตรงคุณจะพบกับความเร็วของรอบที่มาใว และตันเร็วมาก ซึ่งในญี่ปุ่นนั้นระบุสเปคในเรื่องของรอบมาค่อนข้างต่ำ และผมคิดว่านั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รอบตันเร็ว แต่ผมไม่ได้สนใจในส่วนนั้น ผมใช้ความรู้สึกให้เพลิดเพลินไปกับมันก็พอ

 

ทุก ๆ ชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กมีการเกิดแรงเสียดทาน และสั่นอย่างรุนแรง ซึ่งมันเป็นผลมาจากตัวเครื่องยนต์ที่ทำงานในรอบสูงนั่นเอง มากกว่าความเร็วมันคือความรู้สึกเมื่อได้สัมผัสกับพื้นถนนบอกได้เลยว่ามันทยานออกไปดุจสายลม

 

ในเรื่องของการควบคุมรถนั้นยังทำได้ดีกว่ารถยี่ห้ออื่น ๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันนี้ น้ำหนักของตัวเครื่องยนต์เองก็ให้ความรู้สึกที่สมดุลเอามาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรวดทรงองเอวที่สวยงามน่าหลงไหล มันให้อารมณ์ที่สุด ๆ ไปเลย ผมว่ามันเป็นรถแข่งที่สวยคันหนึ่งใน MotoGP เลยครับ ซึ่งทั้งหมดที่ได้สัมผัสมานี้ แน่นอนว่าราคามันก็ต้อสูงตามไปด้วย อย่างไรก็แล้วแต่คงต้องสัมผัสด้วยตัวท่านเองแล้วหล่ะ

 

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ และความเสถียรของรถระดับซุปเปอร์สปอร์ตคันนี้นั้น มีประสิทธิภาพในการเข้าโค้งตามไลน์ที่แคบมาก และการเร่งออกจากไลน์นั้นทำได้อย่างที่ไม่เคยมีสิ่งใดที่ผมเคยพบทำได้อย่างนี้มาก่อน ด้วยระบบควบคุมไฟฟ้า (Electronic Control) คุณจะพบกับการควบคุมที่ง่ายดายดั่งพลิกฝ่ามืออย่างไรอย่างนั้นเลยเชียว

 

 

คุณค่าของมัน

สำหรับ Honda แล้วเครื่องยนต์จากนักขับขี่รุ่นเก่ายังคงมีอิทธิพลอยู่เสมอ ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละว่า "จุดมุ่งหมายที่สำคัญคือต้องการใหได้มาซึ่งความเป็นชัยชนะ" อีกทั้งการควบคุมรถที่ดีเยี่ยมใน RC213V-S ดังที่ว่า "รถที่เร็วที่สุดในโลก ต้องมาพร้อมการควบคุมที่ดีเยี่ยมด้วยเช่นกัน" และนี่แหละคือสิ่งที่รวมเอาทุกอย่างที่พูดมาใว้ในคันเดียวนี้แล้ว

 

จริง ๆ  แล้วท่านประธาน มัตซึบาระ เจ้าของบริษัท RS Taichi เป็นคนขับเจ้า RC213V-S คันนี้มาเองจาก โอซากา เพื่อมาร่วมอิเว้นท์ในครั้งนี้  "อิเว้นท์จัดขึ้นที่ Twin Ring Motegi" ซึ่งถือเป็นโชคดีของคนที่มาทดสอบในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

 

แต่เดิมแล้ว RC213V ได้รับการเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยราคาที่ทำร้ายจิตใจผู้คนยิ่งนัก ก็พอจะเข้าใจได้ว่ารถระดับนี้ราคามันก็ต้องสูงเป็นธรรมดา เพราะมันไม่ใช่รถธรรมดาทั่วไป

 

รถคันนี้ที่ผลิตออกมาจากโรงงานเพื่อให้มันสามารถวิ่งบนท้องถนนได้ จะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันชัดขึ้นอีกนิด ถ้าจะเปรียบกับรถ 4 ล้อ มันก็คือรถสูตร 1 (F-1) นั่นเอง และแน่นอนผมคิดว่าต้องมีคนที่สามารถเป็นเจ้าของรถ RC213V-S คันนี้ได้ และคุณค่าของมันนั้นเหลือล้นจริง ๆ เพราะเป็นรถที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันหอมหวานตลอดระยะเวลาอันยาวนาน และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรุ่นสู่รุ่นตลอด 100 ปีที่ผ่านมาของวงการรถมอเตอร์ไซค์ มันดูมีคุณค่ามาก ๆ ฉะนั้นคุณคงต้องหาประสบการณ์ในการทดสอบขับขี่ดูซักครั้งในชีวิต หรือหาทางเป็นเจ้าของมันดูแล้วหล่ะ!!!

 

 

โปรแรง!! : BUILD UP YOUR H-D/CRUISERS

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ฉลองครอบรอบ 20ปี วีไบค์

ค้นหาสินค้าจาก วีไบค์ไทยแลนด์

Return Top