2019 Ninja H2 CARBON แรงเหลือ ๆ กับม้า 231ps เปิดจองจริงจังแล้วที่ญี่ปุ่น
- 17/12/2018
40 views

เมื่อปีกลาย Kawasaki ปล่อยจรวดทางเรียบ Ninja H2 ที่พกม้าติดตัวมากถึง 200ps ออกสู่ท้องตลาด ยั่วน้ำลายกันไปเป็นแถบ ความเร็วระดับแทบหาตัวจับได้ยาก มาปีนี้ทาง Kawasaki ปล่อยหมัดเด็ดส่ง 2019 Ninja H2 CARBON ลงเก็บสถิติรถมอเตอร์ไซค์ที่เร็วที่สุดในโลกอีกครั้ง ด้วยการทำความเร็วที่ 209.442 ไมล์/ชั่วโมง (ประาณ 337 กม. / ชม.) ในสหรัฐอเมริกากับงาน Speed Week ที่จัดขึ้น ณ Bonneville Salt Flats เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
มันมากับพลังซุปเปอร์ชาร์จที่พร้อมบด Panigale V4R!
สำหรับ Kawasaki 2019 Ninja H2 CARBON ที่จะลงวางขายในท้องตลาดนั้นมีแรงม้าอยู่ที่ 231ps ซึ่งจะมากกว่า Ducati Panigale V4R ที่มีมาให้เพียง 221ps ที่ 16,500 รอบ/นาที โดยกำหนดการวางตลาดคือวันที่ 1 มิถุนายน 2019 แต่เปิดให้สั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 18 มกราคมปีหน้า สนนราคาที่ 3,564,000 เยน หรือประมาณ 1,030,658 บาท
[KAWASAKI 2019 Ninja H2 CARBON สเปคญี่ปุ่น] ความตัวรถ 2,085 มม. กว้าง 770 มม. สูง 1,125 มม. ระยะฐานล้อ 1,455 มม. ความสูงเบาะ 825 มม. และน้ำหนัก 238 กม. เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง DOCH 4 วาล์วต่อสูบ ความจุกระบอกสูบ 998 ซีซี แรงม้า 231ps ที่ 11,500 รอบ/นาที [เมื่อแรมแอร์ทำงานจะมีแรงม้า 242ps ที่ 11,500 รอบ/นาที] แรงบิด 14.4 กก./ม. ที่ 11,000 รอบ/นาที ใช้ชุุดเกียร์บ็อกซ์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุถังน้ำมัน 17 ลิตร ยางหน้าเบอร์ 120/70 ZR 17 ยางหลัง 200/55 ZR 17 ราคารถอยู่ที่ 3,564,000 เยน สีตัวรถ Mirror Court Mat Spark Black × Candy Flat Blazed Green
ชุดสีทนทานต่อแรงขีดข่วน และตัวกระจกรถถูกออกแบบมาให้ดูแลรักษาง่าย
ตามรูปตรงส่วนที่ระบายสีทึบใว้จะเป็นสีเทา
ติดตั้งมาด้วยใบพัดที่มีความแม่นยำสูงจากโรงงาน ทำให้สามารถรีดสมรรถนะจากระบบซุปเปอร์ชาร์จออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอินเตอร์คูลเลอร์
เปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ กันไปเลยว่า 2018 Ninja H2 กับ 2019 นั้นแตกกันเพียงใด
ชุดมาตรวัดเรือนไมล์จาก Bosch ที่มีการแสดงผลให้อย่างครบครันตั้งแต่ระบบแทรกชั่นคอนโทรล (KTRC) ระบบป้องกันการล็อคเบรค (KIBS) ระบบเอ็นจิ้นเบรค (KEBC) แสดงผลควิ๊กชิฟเตอร์ทั้งขึ้น และลง (KQS) รวมถึงระบบช่วยออกตัว (KLCM) ด้วย
ติดตั้งมาด้วยโช้คกันสะบัดไฟฟ้าจาก Ohlins
โช้คหน้าเรซซิ่งจาก KYB โมเดล AOS – Ⅱ ทำงานควบคู่กับชุดคาลิปเปอร์เบรคสตรีทโมโนบล็อกที่ดีที่สุดจาก Brembo “Stylema”
อาร์มเดี่ยวพร้อมโช้คหลังตระกูล TTX 36 จาก Ohlins ยางหลังโมเดล R11 จาก Bridgestone
ไฟ LED รอบคัน
ขอบคุณข้อมูลจาก Young Machine
พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 คว้ารางวัลโมโตจีพีที่ดีที่สุดของโลก!
ดุเดือด เร้าใจ สนามปิดฤดูกาล “Kawasaki Enduro 3 Hrs. สนามที่ 5 ณ บ่อดิน มีนบุรี”