วิเคราะห์จุดเด่น R6(2017) พร้อมสเปค!
- 20/10/2016
426 views
ผ่านมาก็จะหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากที่ R6 เปิดตัวในงาน AIM Expo ที่อเมริกา ซึ่งเป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 9 ปีของรุ่นนี้
ราคาเปิดตัวในอเมริกา: $12,199 (ประมาณ 426,000 บาท)
วางจำหน่าย: มีนาคม 2017
เรียกได้ว่าเป็น R1 ขนาดกลาง
R6 ตัวใหม่นี้มีโช๊คหน้าหัวกลับ กับถังน้ำมันอลูมิเนียมแบบเดียวกับ R1 เป๊ะๆ ส่วนซับเฟรมจะทำมาจากแม๊กนีเซียมซึ่งช่วยลดน้ำหนักของรถลงเหลือ 190 กก. ระบบอิเล็กทรอนิกส์คอนโทรลยังปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นด้วย ทั้ง TC (Traction Control) และควิกชิพเตอร์สามารถเลือกใส่ได้โดยมีมาเป็นออฟชั่นเสริม
จุดเด่นหลักๆของ R6
1. ระบบ ABS และ Traction Control
ABS และ TC ถึง 6 ระดับที่จะช่วยให้ล้อหลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นขณะเปิดคันเร่ง เพราะถ้าระบบตรวจพบว่าล้อหลังฟรีเมื่อไหร่ ก็จะลดแรงอัดของรถลงทำให้ล้อหมุนสัมพันธ์กับแรงรถ อัตราเร่งที่มีความนุ่มนวล ซึ่งเกิดจากระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพของ จังหวะการจุดระเบิด ปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง และจังหวะการเปิดปิดของวาล์ว
2. ระบบกันสะเทือน และระบบเบรค
ระบบกันสะเทือน และระบบเบรคที่มีประสิทธิชั้นสูงแบบเดียวกับ R1 อย่างเช่น โช๊คหน้าหัวกลับมีแกนขนาด 43มม. เปลี่ยนจากเดิมที่เป็น 41มม. โดยจะเซ็ตมาอย่างดีเพื่อให้ความหนืด ขึ้นลงสัมพันธ์กับแรงกระแทกของรถ อะไหล่ที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันกับ R1 ก็นำมาใช้ตรงเบรคหน้าเช่นกัน ดิสก์หน้ามีขนาด 320มม. คาลิปเปอร์เป็นอลูมิเนียม 4พอต oppsed-piston Monoblock(แบบ 2 แผ่น) เชื่อมกับปั๊มบนของ Nissin
3. ถังอลูมิเนียมน้ำหนักเบา
ประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงของยามาฮ่า(CMT)โดยมีถังของ R1 เป็นต้นแบบ ทำให้มีน้ำหนักที่เบามาก จุได้ 17ลิตร ถังเว้าเข้าไปกว่าเดิมทำให้มีพื้นที่ให้เข่าหนีบได้แน่นขึ้น คล่องตัว และไม่เมื่อยเหมือนรุ่นก่อน ตรงส่วนนี้ทำให้น้ำหนักรถเบาขึ้นถึง 1.2 กก.
4. ซับเฟรมเพรียว ทำจากแม็กนีเซียมด้วยการไดคาสติ้ง
จะเห็นได้ชัดว่าเบาะกับซับเฟรมเป็นดีไซน์ใหม่ ท้ายเบาะยกสูงขึ้น คนขับจะรู้สึกได้ว่าช่วงต้นขาเวลานั่งจะสบายขึ้น ขาสามารถยันพื้นได้โดยไม่ติดเฟรมที่ต้นขา และข้อดีที่ได้จากถังน้ำมันใหม่ทำให้นักขับมีความคล่องตัวมากขึ้นในการบังคับรถ
5. แฟริ่งหน้าใหม่
แฟริ่งหน้ากับชิลด์ที่ดีไซน์ใหม่ช่วยให้ลู่ลมได้ดีกว่าเดิมถึง 8% จึงสามารถทำความเร็วได้มากกว่าด้วยเวลาที่เท่าเดิม
6. ดีไซน์ของรถที่มีสไตล์
ปัจจัยอย่างแรกเลยที่ทำรถคันนี้ออกมาก็คือเพื่อสานต่อตระกูล R ของยามาฮ่า รถดูมีดีไซน์ที่ทันสมัย ทรงพลัง และสิ่งที่นักขับจะได้รับก็คือความสนุก และความตื่นเต้นในเวลาขึ้นคล่อมเจ้าตัวนี้ไปตามท้องถนน หรือในสนามแข่ง
7. ระบบควิกชิพเตอร์ (ออฟชั่นเสริม)
ระบบนี้มีมาให้เป็นออฟชั่นเสริมเพื่อเสริมความรวดเร็วทันใจเวลาตบเกียร์ขึ้น เข้าเกียร์ได้ต่อเนื่องโดยที่รอบไม่ตก และไม่ต้องกำคลัทช์ ทำให้เครื่องยนต์สมูทกว่าเดิม ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็เปิดตัวเดียวกับ R1
สีน้ำเงิน
สีดำ
สีขาว/เงิน
สเปค
Overall Length x Width x Height | 2,040mm × 695mm × 1,150mm |
Seat Height | 850mm |
Wheelbase | 1,375mm |
Weight | 190kg |
Engine Type | Liquid-cooled, 4-Stroke, DOHC, 4-Valve |
Cylinder Arrangement | In-line 4-cylinder |
Total Displacement | 599cm3 |
Bore x Stroke | 67.0 × 42.5mm |
Compression Ratio | 13.1:1 |
Maximum Output | NA |
Maximum Torque | NA |
Compression Ratio | 13.1:1 |
Starter System | Electric |
Fuel Tank Capacity | 17L |
Fuel Supply | Fuel Injection |
Tire Size(Front/Rear) | 120/70ZR17/180/55ZR17 |
โปรโมชั่นพิเศษประจำสัปดาห์