” เราก่อตั้งมาจะครบรอบ 20 ปีในวันที่ 1ตุลาคมนี้ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่นานพอสมควรเลยทีเดียวกับที่นี่ และเราจะไม่สามารถทำได้เลยหากไม่มีพวกคุณ (ลูกค้า) ทุกคน “
นี่คือบทความพิเศษของนิตยสารมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นอย่าง Big Machine ที่สัมภาษณ์ CEO ของ Webike คุณชินาโนะ บทความนี้เขาพูดถึงการก่อตั้ง Webike และแผนการในอนาคตของเขา

เป้าหมายของเราคือการเป็นที่ 1 ในวงการมอเตอร์ไซค์
แม้ต้องเผชิญกับยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิมก็ตาม  “เรายังคงหลงไหลในรถมอเตอร์ไซค์ และผู้คนที่ขับขี่มันอยู่ดี

จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยยุคสมัยที่วงการ IT
กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2000

▲การเริ่มต้นที่มุมหนึ่งของร้านขายรถจักรยานยนต์ในปี 2000 ยอดขายเดือนแรกของ Rivercrane อยู่ที่ 510,000 เยน อย่างไรก็ตามการเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องกับพนักงานที่ยอดเยี่ยมทำให้บริษัทสามารถทำยอดขายต่อเดือนแตะที่ 100 ล้านเยนในปี 2005ได้ บริษัทได้จัดงานปาร์ตี้บนเรือเพื่อเฉลิมฉลองให้กับยอดขายในตอนนั้น

นิตยสาร BigMachine (เกริ่นนำจากผู้สัมภาษณ์ BM) :
ปัจจุบันเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรถมอเตอร์ไซค์อย่าง “Webike” กลายเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงอุตสาหกรรมมอเตอร์ไซค์ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับแบรนด์ใหญ่อื่น ๆ กว่าที่จะมายืนตรงจุดนี้ได้ พวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ธุระกิจพลิกผันมาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งนี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ “คุณโคกิ ชินาโนะ” ประธานบริษัทในเครือ “Rivercrane” หรือที่รู้จักกันในนาม “Webike” เกี่ยวกับเส้นทางตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา วิสัยทัศน์ และแผนในอนาคตของเขา เริ่มด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับการก่อตั้งบริษัท “Rivercrane” กัน

คุณ ชินาโนะ :
” ผมใช้เวลาช่วงมหาวิทยาลัยในเมืองสึบาคุ จังหวัดอิบารากิ หมกมุ่นอยู่กับโลกของรถมอเตอร์ไซค์ หลังจากได้ใบขับขี่ ในช่วงนั้นตัวผมเองก็ทำงานพาร์ทไทม์เกี่ยวกับงานเซอร์วิสยางที่สนามแข่งรถเช่นกัน และผมจำได้ดีว่าในยุค 90 สนามแข่งรถมีชีวิตชีวามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก จนถึงวันนี้ผมยังคงคิดถึงการใช้ชีวิตในบรรยากาศแบบนั้นทุก ๆ วัน ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะว่าประสบการณ์ของผมในวันนั้นมันทำให้ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมต้องการที่จะทำ นั่นคือการเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถมอเตอร์ไซค์ ในทางเดียวกันนั้นระบบอินเทอร์เน็ตเองก็เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในเวลานั้นผมรู้สึกประทับใจมากเมื่อได้ลองเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยกับระบบอินเทอร์เน็ต และได้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทำเนียบขาวในอีกฟากหนึ่งของโลก หลังจากสำเร็จการศึกษาผมก็ได้งานทำในฐานะวิศวกรระบบ อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้หลงทางไปไกลจากเรื่องของมอเตอร์ไซค์มากนัก โดยรถที่ผมใช้ในตอนนั้นคือ Kawasaki Ninja ที่ซื้อมาใช้เพื่อการแข่งขันรายการ Taste of Freelance และได้ใช้มันกับการแข่งขันอื่น ๆ ผมได้รับประโยชน์มากอย่างมากกับสิ่งเหล่านั้น

จากนั้นในปี 2000 เมื่อผมอายุได้ 28 ปี ผมก็เปิดบริษัท Rivercrane ขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ Amazon Japan ก่อตั้งขึ้น และ Rakuten ก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และทั้งหมดนั้นมันอยู่ในยุคของฟองสบู่ไอทีที่เรียกได้ว่าบริษัท IT นั้นแตกกิ่งก้านสาขากันกระจุยกระจายทีเดียว เป็นช่วงเวลาที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะรวบรวมความรักในรถมอเตอร์ไซค์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ต และเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาทันที “

▲ในปี 2005 คุณชินาโนะ เข้าร่วมงาน Taste of Freelance (ปัจจุบันคือ Taste of Tsukuba) เขาสนุกกับการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นอย่างมาก พนักงานของเขาก็เช่นกัน

” ผมใช้เวลาช่วงมหาวิทยาลัยในเมืองสึบาคุ จังหวัดอิบารากิ หมกมุ่นอยู่กับโลกของรถมอเตอร์ไซค์ หลังจากได้ใบขับขี่ ในช่วงนั้นตัวผมเองก็ทำงานพาร์ทไทม์เกี่ยวกับงานเซอร์วิสยางที่สนามแข่งรถเช่นกัน และผมจำได้ดีว่าในยุค 90 สนามแข่งรถมีชีวิตชีวามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก จนถึงวันนี้ผมยังคงคิดถึงการใช้ชีวิตในบรรยากาศแบบนั้นทุก ๆ วัน ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะว่าประสบการณ์ของผมในวันนั้นมันทำให้ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมต้องการที่จะทำ นั่นคือการเริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถมอเตอร์ไซค์ ในทางเดียวกันนั้นระบบอินเทอร์เน็ตเองก็เริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในเวลานั้นผมรู้สึกประทับใจมากเมื่อได้ลองเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยกับระบบอินเทอร์เน็ต และได้เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทำเนียบขาวในอีกฟากหนึ่งของโลก หลังจากสำเร็จการศึกษาผมก็ได้งานทำในฐานะวิศวกรระบบ อย่างไรก็ตามผมก็ไม่ได้หลงทางไปไกลจากเรื่องของมอเตอร์ไซค์มากนัก โดยรถที่ผมใช้ในตอนนั้นคือ Kawasaki Ninja ที่ซื้อมาใช้เพื่อการแข่งขันรายการ Taste of Freelance และได้ใช้มันกับการแข่งขันอื่น ๆ ผมได้รับประโยชน์มากอย่างมากกับสิ่งเหล่านั้น

จากนั้นในปี 2000 เมื่อผมอายุได้ 28 ปี ผมก็เปิดบริษัท Rivercrane ขึ้นมา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ Amazon Japan ก่อตั้งขึ้น และ Rakuten ก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และทั้งหมดนั้นมันอยู่ในยุคของฟองสบู่ไอทีที่เรียกได้ว่าบริษัท IT นั้นแตกกิ่งก้านสาขากันกระจุยกระจายทีเดียว เป็นช่วงเวลาที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะรวบรวมความรักในรถมอเตอร์ไซค์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ต และเริ่มต้นธุรกิจอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาทันที ”

BM:
สำหรับตัว คุณชินาโนะ แล้วนั้นถือได้ว่าเป็นแกนหลักสำคัญที่เข้าร่วมงานมอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ จาก “Webike” เลยก็ว่าได้ และนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันสำคัญที่จะเข้าใจว่าลูกค้าผู้ที่ใช้งานมอเตอร์ไซค์รู้สึกอย่างไรจริง ๆ ตอนที่บริษัท “Riverclane” เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่พวกรถสกู๊ตเตอร์ขนาดใหญ่ และ Yamaha TW ซีรีย์ รวมถึงพวกตระกูล Yamaha dragsters กำลังบูม ในเวลานั้นตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศญี่ปุ่นมีการจำหน่ายที่ประมาณ 760,000 คัน ต่อปี แต่ ณ ปัจจุบันตลาดรถมอเตอร์ไซค์หดตัวลงเหลือเพียง 380,000 คัน เท่านั้น มันเป็นความจริงที่น่าสนใจว่าแบรนด์ “Webike” จะยังสามารถเติบโตไปได้ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้.

 

วันที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
กลายเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

คุณ ชินาโนะ :
” ถูกต้องครับ! ในตอนนั้นรถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์ และมันมีที่มากมายสำหรับการปรับแต่งในส่วนของตัวท่อไอเสีย และล้อ อย่างไรก็ตามเราได้เช่ามุมหนึ่งของร้านขายมอเตอร์ไซค์ และเริ่มเปิด บริษัทด้วยเงินทุนเพียง 30,000 เยน กับเพื่อน ๆ ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำคือการทำให้ได้มาซึ่งความไว้วางใจจากซัพพลายเออร์ของเรา เราต้องทำงาน และนอนที่บริษัทตลอดเวลา ผมจึงคิดว่านั่นเป็นวิธีที่ทำให้ผมสามารถผูกสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และทำให้บริษัทเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้ นอกจากอีคอมเมิร์ซแล้ว เรายังพัฒนาระบบบริการต่าง ๆ เช่น เว็บบอร์ด และสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ขึ้นด้วยไอเดียของพวกเรา เมื่อมองย้อนกลับไปมันเป็นช่วงเวลาที่เหมือนจะเป็นการลงทุนเอามาก ๆ

ในปี 2006 เราได้เข้าร่วมกับองค์กร JMCA (Japan Motorcycle Accessories Association) และจากนั้นเราก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟน ๆ นักบิดมากมาย ในขณะเดียวกันเรายังมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับการสนับสนุนกิจกรรมการแข่งรถมอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ และสนับสนุนพนักงานของพวกเราในการแข่งขันต่าง ๆ ของพวกเขา เพื่อที่ผมจะมั่นใจได้ว่าพวกเขาสนุกกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ และสนุกกับการทำงานที่นี่ พวกเขาทุกคนเป็นคนสำคัญ และมีความเท่าเทียมกันที่นี่เสมอ ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถสร้างรากฐานที่มั่นคงได้ในช่วง 10 ปีแรก ”

▲เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมอเตอร์ไซค์ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันรายการ EWC (Endurance World Championship) Webike ไม่เพียงแต่สนับสนุนการแข่งขันระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแข่งขันในต่างประเทศด้วย
ภาพแบนเนอร์ที่สนับสนุนการแข่งขัน EWC (Endurance World Championship) วีไบค์ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์สินค้ารถจักรยานยนต์ระดับสากล

คุณ ชินาโนะ :
” หลังจากที่ผมก่อตั้งบริษัทได้ 10 ปี และสิ่งที่ผมได้ทำต่อมาในอีก 10 ปี คือการทำให้วีไบค์กลายเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงโลก ผมมีความรู้สึกนี้เสมอว่าเมื่อใดก็ตามที่ผมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงาน หรือเพื่อจุดประสงค์อื่น ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็ตาม ผมได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติญี่ปุ่นวิ่งอยู่เต็มท้องถนน ในโลกของเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่นคงต้องยอมยกตำแหน่งให้กับจีน และเกาหลีใต้ แม้ว่า Toyota จะยังคงครองอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ก็ตาม แต่เมื่อคุณมองไปรอบ ๆ มันยังไม่ใช่แบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก แต่อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นประเทศที่ถือว่าดีที่สุดในโลกของรถจักรยานยนต์

เราขยายสาขาไปยังเวียดนามในปี 2012 และไปยังไต้หวันในปี 2013 และตอนนี้เรากำลังขยายไปยังตลาดต่างประเทศอื่น ๆ อีกทั้งหมด 7 ประเทศ เรามีพนักงาน 300 คนในสาขาญี่ปุ่น และ 200 คนในสาขาต่างประเทศ การยกเลิกภาษีเช่น FTAAP จะทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานของเราเราเติบโตได้มากขึ้นในระดับโลก การขยายธุรกิจในต่างประเทศของเราเป็นการร่วมทุนเช่นเดียวกับในช่วง 10 ปีแรกของธุรกิจในญี่ปุ่นที่ญี่ปุ่น ปัจจุบันนี้เราได้มาถูกทางแล้ว และเราเชื่อว่า “Webike Japan” จะกลายเป็น “Webike ระดับ Asia” และเป็น ” Webike ระดับ in the World” ได้ ”

▲ทีม Norick ก่อตั้งโดย Norick (โนริฟุมิ อาเบะ) นักแข่งมือหนึ่งของญี่ปุ่น และ Webike เป็นผู้สนับสนุนหลักของทีมลูกชายคนโตของ Norick
มาอิกิ อาเบะ ก็กำลังแข่งขันในคลาส ST600 เช่นกัน

 

แผนใน 10 ปีข้างหน้า กับสถานการณ์โลก และวัฒนธรรมของรถมอเตอร์ไซค์

BM:
ยี่สิบปีหลังการเปิดตัวของบริษัท วีไบค์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความหลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ของ คุณชินาโนะ และทีมงานของเขา และความหลงใหลนั้นมันได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น ช่วง 20 ปีนี้เป็นเวลาที่ยาวนาน และทุกสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไป ตลอดระยะเวลา 20 ปีนี้ ผมเชื่อว่าการคิดอย่างอิสระ และการลงมือทำอย่างรวดเร็วคือสิ่งที่ทำให้วีไบค์ประสบความสำเร็จ คุณอยากจะพูดอะไรใน 10 ปีต่อจากนี้หรือไม่

คุณ ชินาโนะ :
” ในปีนี้เนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 หลาย ๆ คนใช้เวลาคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และแผนการในอนาคตของพวกเขา แต่สำหรับวีไบค์ แม้ว่าเราจะไม่สามารถเดินทางไป และกลับต่างประเทศเพื่อทำงานได้ แต่เราก็ยังคงติดต่อสื่อสารกับพนักงานในสาขาต่าง ๆ ในต่างประเทศทางออนไลน์อยู่เสมอ ดังนั้นในความเป็นจริงเราจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการระบาดครั้งนี้ แต่ผมก็อยากจะฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในประเทศญี่ปุ่นในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ให้กลับมาเหมือนสมัยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมต้องการใช้สื่อดิจิทัล (DX) เป็นพื้นฐานในการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ต่าง ๆ เข้ากับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในทุกแง่ของชีวิตพวกเขา ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเจนอย่างเกม Pokémon Go ที่ตัวเกมเปิดให้ผู้คนออกไปข้างนอกด้วยสมาร์ทโฟนในมือ และเชื่อมต่อกับผู้อื่น เราต้องการสร้างระบบที่เหมือนตัวเกมนี้ ที่จะช่วยให้ผู้คนสนุกกับการขับขี่ และพบปะกับผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ”

▲Webike จะจัดงานวันกีฬารถจักรยานยนต์สำหรับทั้งบริษัทปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งแน่นอนว่า คุณชินาโนะ เองต้องเข้าร่วมงานนี้ด้วยอยู่แล้ว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกัน

▲คุณ ชินาโนะ ดูสนุกสนานกับ CB1000R. ใน sports day ทุกๆวันของเขา

อีกประการหนึ่งคือการเชื่อมร้านมอเตอร์ไซค์กับผู้ขับขี่ทั่วประเทศเข้าหากัน ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งสองฝ่าย ปัจจุบันวีไบค์มีสมาชิกที่ลงทะเบียนอยู่ที่ 850,000 ราย เราต้องการสร้างระบบที่ช่วยให้พวกเขาทุกคนสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สนุกสนาน และมีความสุขกับชีวิตการใช้มอเตอร์ไซค์ กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มีอายุมากขึ้นทุกปี ตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับประเทศญี่ปุ่นที่มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีอายุยืนยงถึง 100 ปี ที่วีไบค์เราต้องการสร้างสังคมที่ผู้คนยังคงสนุกกับการขี่มอเตอร์ไซค์ได้ แม้ว่าพวกเขาจะอายุ 100 ปีแล้วก็ตาม
#Webike20thAnniversary

• webike, Webike 20th Anniversary, Webike ครบรอบ 20ปี