How to เบรคยังไงให้ปลอดภัย

08/10/2020
214 views

– เครื่องห้ามล้อ
หรือที่เรียกกันทั่วโลกว่า “เบรค” เป็นส่วนหนึ่งของยานพาหนะล้อเลื่อนทางบกแทบทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน จักรยานยนต์ รถยนต์ ฯลฯ ล้วนต้องมีระบบเบรคด้วยกันทั้งนั้น

เพราะถ้าไม่มีเบรค เสาไฟฟ้าข้างทางก็คงล้มระเนระนาดกันเป็นแถบๆแน่นอน

ภาพจาก google

รถทุกคันจึงต้องมีระบบเบรคเพื่อเป็นเครื่องช่วยลดความเร็ว,ชะลอ หรือหยุดรถให้อยู่กับที่
และวันนี้ทีมงาน Webike Thailand จะมาแชร์เทคนิคพื้นฐานการใช้เบรคจากประสบการณ์
การขับขี่มอเตอร์ไซค์กว่า10ปี และจากแหล่งความรู้อื่นๆ ให้กับผู้ขับขี่มือใหม่ได้เพิ่มทักษะกัน

“เบรค” ในรถจักรยานยนต์ไม่ได้มีเพียงแค่เบรคหน้าและเบรคหลังเท่านั้น ยังมี “เอนจิ้นเบรค”
เป็นเบรค์ที่ไม่ใช่ระบบเบรค แต่เป็นแรงหน่วงของเครื่องยนต์ หรือ Negative Horsepower
(แรงย้อนกลับของเครื่องยนต์) สังเกตุอาการได้จากการเดินคันเร่งในรอบสูงและปล่อยคันเร่ง
อย่างกระทันหัน เครื่องยนต์จะเกิดอาการตื้อและช้าลง นั่นหละครับคือเอ็นจิ้นเบรค ในเกียร์สูง
จะมีแรงเอ็นจิ้นเบรคน้อยกว่าในเกียร์ต่ำ ยิ่งแรงม้าเยอะ เอ็นจิ้นเบรคก็จะมีกำลังมากขึ้นตามไป

“พักเรื่องเอ็นจิ้นเบรคไว้ก่อน กลับมาที่การเบรคกันดีกว่า ”
โดยปรกติแล้ว เบรคหน้าจะสามารถหยุดรถได้ดีกว่าเบรคหลัง เนื่องจากขณะที่รถชะลอตัวนั้น
น้ำหนักจะถูกเหวี่ยงไปด้านหน้าจากแรงเฉื่อย ยิ่งถ้าแรงเสียดทานจากล้อที่สัมผัสกับถนนแล้ว
ยิ่งทำให้เกิดแรงกดที่ล้อหน้ามากขึ้น จึงทำให้ล้อหน้ามีผลกับการเบรคมากกว่า ตรงกันข้าม
เมื่อเกิดแรงเสียดสีกับพื้นที่ล้อหน้าล้อหลังก็จะเกิดการยกตัว ทำให้แรงเสียดสีที่ล้อหลังลดลง

ภาพจาก google

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหยุดรถ
1.ผ้าเบรคและจานเบรค หากผ้าเบรคไม่ได้คุณภาพหรือเนื้อผ้าเบรคหมดหรือมีอุณหภูมิสูง
แรงเสียดทานของผ้าเบรคและจานเบรคจะลดลง ทำให้ระยะเบรคมากขึ้น
2.ยางล้อ ถ้าหากคุณภาพของเนื้อยางนั้นแข็งกระด้างเกินไป หรือลมยางนั้นมากเกินไป
การยึดเกาะและพื้นสัมผัสของยางล้อกับถนนก็จะน้อยลงไป หากเบรคหนักอาจล้อลากได้
3.พื้นถนน จะต้องแห้ง หยาบ ไม่เรียบลื่น ไม่มีน้ำหรือของเหลวใดๆมาเป็นปัจจัยแทรก
ระหว่างล้อยางและพื้นถนน

ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางนี่ตัวดีเลย เกือบจะแถหลายรอบแล้ว

การใช้เบรค
โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่จะใช้เบรคหน้ามากกว่าเบรคหลัง เพราะว่ามันเบรคได้ดีกว่า
แต่จริงๆแล้วครูฝึกขับขี่ปลอดภัยหลายๆท่านได้แนะนำไว้ว่า “เราควรใช้เบรคทั้งหมด”
นั่นก็คือการใช้เบรคทั้ง 3 พร้อมๆกันคือ เบรคหน้า เบรคหลัง และเอ็นจิ้นเบรค
ในรถคลัชมือ การปล่อยคลัช+ปล่อยคันเร่งหลังจากเดินคันเร่งในรอบสูง จะมีแรงหน่วง
ของเครื่องยนต์ หรือเอ็นจิ้นเบรคที่กล่าวไว้ข้างต้น หลายคนที่ขี่รถออโต้อาจเกิดคำถาม
“แล้วรถออโต้ล่ะ จะทำยังไง” ในรถออโต้ก็มีเอ็นจิ้นเบรคเหมือนกันครับ แต่น้อยกว่า
เอ็นจิ้นเบรคในรถออโต้ก็ทำงานเหมือนในรถคลัชมือ จะเกิดเมื่อเดินคันเร่งในรอบสูง
และปล่อยคันเร่งทันที แต่อาจไม่หน่วงเท่ากับรถที่มีคลัช

หากต้องเบรคกระทันหันแล้วควรตั้งสติ ตั้งรถให้ตรง ห้ามหักล้อเลี้ยวหนี ปล่อยคันเร่ง
และกำเบรคทั้ง2ให้มั่นอย่าแรงเกินไปจนล้อฟรี(ในกรณีไม่มี ABS) ไม่เช่นนั้นแล้ว…