Webike Thailand

รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์โมตาร์ดคลาส 250 ซีซี ระหว่าง HONDA CRF250M, YAMAHA WR250X และ YAMAHA XT250X

 

การทดสอบจัดขึ้นที่สนาม TWIN RING MOTEGI ในประเทศ ญี่ปุ่น กับรถมอเตอร์ไซค์ซุปโมตาร์ดสูบเดี่ยว 250 ซีซี ยอดนิยมแห่งปี 2016 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เขียน รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ซุปเปอร์สปอร์ตคลาส 250 ซีซี สูบคู่ ระหว่าง Yamaha YZF-R25 และ Kawasaki Ninja250ABS กันไปแล้ว และครั้งนี้จะมาทำการทดสอบเพื่อเปรียบเทียบกันระหว่างรถมอเตอร์ไซค์ 3 คัน จาก 2 ค่ายดังคือ Honda CRF250, Yamaha WR250X และ Yamaha XT250X ซึ่งรถซุปเปอร์โมตาร์ดนั้นมีพื้นฐานมาจากรถโมโตครอส และด้วยความที่มันมีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากจึงทำให้มันมีน้ำหนักเบาสามารถตอบสนองการใช้งานได้ทั้งทางวิบาก และถนนในเมือง ฉะนั้นมันจึงเป็นกลุุ่มรถที่ได้รับความนิยมจากผูู้ขับขี่อยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

 

HONDA CRF250M ความเสถียรที่ดีเยี่ยม!

รถอเนกประสงค์ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับทุก ๆ การเดินทาง ทั้งในเมือง และออกทริปด้วยความเร็วสูง

ขนาดความจุกระบบอกสูบ : 249 ซีซี
อัตราการบริโภคน้ำมัน :: 44.3 กม./ลิตร (ที่ความเร็ว 60 กม./ชม.)
ความจุถังน้ำมัน : 7.7 ลิตร
กำลังสูงสุด : 23ps (17kw)/8500 รอบ/นาที
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ :: 850 มม.
น้ำหนักรวม :: 145 กก.

YAMAHA WR250X เพลิดเพลินไปกับสไตล์โมตาร์ดแบบจริงจัง!

ให้การขับขี่ที่เฉียบคม ซึ่งจะทำให้คุณค้นพบกับความสนุกใหม่ ๆ อีกทั้งมันยังมีความโดดเด่นในการเข้าโค้ง และการวิ่งในเซอร์กิตอีกด้วย

ขนาดความจุกระบบอกสูบ : 249 ซีซี
อัตราการบริโภคน้ำมัน : 34.0 กม./ลิตร (ที่ความเร็ว 60 กม./ชม.)
ความจุถังน้ำมัน : 7.6L
กำลังสูงสุด : 31ps (23kw)/10000 รอบ/นาที
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 870 มม.
น้ำหนักรวม : 134 กก.

YAMAHA XT250X รถมอเตอร์ไซค์ขับดีที่ใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้!

มันเป็นรถที่ให้ความเพลิดเพลินได้ตั้งแต่มือใหม่จนถึงมือมือพระกาฬ เพราะมีระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวล และตำแหน่งการวางเท้ากับพื้นที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นรถที่มีความแข็งแกร่งทนทานต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายอีกด้วย

ขนาดความจุกระบบอกสูบ : 249 ซีซี
อัตราการบริโภคน้ำมัน : 39.0 กม./ลิตร (ที่ความเร็ว 60 กม./ชม.)
ความจุถังน้ำมัน : 9.6 ลิตร
กำลังสูงสุด : 18ps (14kw)/7500 รอบ/นาที
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 790 มม.
น้ำหนักรวม: 133 กก.

[ตำแหน่งท่านั่ง] ผู้ทดสอบสูง : 176 ซม./น้ำหนัก : 69 กก.

CRF250M
เบาะนั่ง และแฮนด์บาร์ทำออกมาได้อย่างสมดุล นอกจากนี้ความหนาของถังน้ำมันอยู่ในระดับปานกลาง และมันให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยประมาณรถเน็คเก็ตกันเลยทีเดียว และด้วยความที่ตัวเบาะเป็นแบบชิ้นเดียวยาวแบนจึงทำให้การขับขี่นั้นง่ายเหมือน WR250X เลย

 

WR250X
เบาะนั่ง และตำแหน่งแฮนด์บาร์ทำออกมาได้อย่างสมดุลเหมือน CRF250M ทัศนวิสัยในการมองเห็นก็ทำออกมาได้ดีไม่มีปัญหาใด ๆ และปีกข้างก็ใหญ่รับกับเข่าพอดีด้วยถ้าเราปรับตำแหน่งเบาะขึ้นมานิดหนึ่ง

XT250X
ฟิลลิ่งนั้นประดุจว่าเรากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เพราะเบาะนั่งที่ค่อนข้างต่ำกว่าตำแหน่งของถังน้ำมัน นั่นจึงให้มาซึ่งความรู้สึกที่ปลอดภัย และมุมมองก็ดีตามไปด้วย

[ความรู้สึกหลังขับขี่]

CRF250M

ความรู้สึกของกำลังรถตั้งแต่สตาร์ทเครื่อง → เร่งความเร็วขึ้น → ลดความเร็วลง ทำได้อย่างราบรื่น และความจริงในสภาพอากาศแบบฟ้าฝนนั้นจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ต่าง ๆ ก็ยังคงให้ความมั่นคงปลอดภัยดีไม่กระชากมากนัก และกำลังเครื่องยนต์นั้นก็ทำออกมาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการทำงานในรอบสูงก็ไม่ได้มีความตึงเครียดเท่าไดนัก

 

WR250X
จากรถทั้ง 3 คันที่ได้นำมาทำการทดสอบในครั้งนี้ ต้องยอมรับเลยว่าคันนี้จังหวะเปิดปิดคันเร่งทำออกมาได้อย่างเที่ยงตรง และให้ฟิลลิ่งที่ดีมากเนื่องจากอัตราทดเกียร์ที่ค่อนข้างชิดกว่า WR250R นั่นเอง และสามารถทำให้เราเพลิดเพลินไปกับมันได้ในทันที และในทุก ๆ ที่

XT250X
ทุกอย่างสมดุลไปหมด อีกทั้งยังให้อัตราเร่ง, การทำความเร็ว, แรงบิด และจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่นมากทีเดียว แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายมากที่สุดก็คงจะเป็นระบบส่งกำลัง 5 สปีดที่มีชุดเฟืองลึก ขับสนุกทั้งทางวิบาก และในเมือง

[การควบคุม]

CRF250M

โช็คหลังนุ่มนวล และฟิลลิ่งขณะเข้าโค้งทำได้ดีเหมือนว่ามันไม่ใช่รถวิบากเลย และการเบรคบนพื้นถนนเปียกก็ทำได้นิ่มนวลเนื่องจากโช็คหน้านั้นมีความนุ่มกว่าโช็คหลัง

 

WR250X
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาในการเบรค หรือเบรคได้ไม่เฉียบคมเท่าไดนัก รถคันนี้ที่มาพร้อมโช็คแบปรับตั้งได้จะทำให้คุณสามารถคอนโทรลรถได้อย่างนิ่มนวลไร้ซึ่งความกังวลอีกต่อไป และด้วยการปรับตั้งความหนืดของโช็คนี้จึงทำให้การทำงานในสภาพอากาศที่มีฝนตกทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

XT250X
โช็คหน้าหลังดี การวางเท้ากับพื้นดี และในการขับขี่ในสภาพอากาศที่มีฝนตกนั้นก็ทำได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการเข้าออกโค้งก็ทำได้ไม่น่าเกลียด มันจึงเป็นรถที่เหมาะกับมือใหม่จริง ๆ แต่ในสภาพอากาศที่แห้งนั้นระบบกันสะเทือนของมันไม่ค่อยเอาอ่าวเท่าไรนัก

[การควบคุม/ตำแหน่งวางเท้ากับพื้น] ผู้ทดสอบสูง : 176 ซม./น้ำหนัก : 69 กก.

CRF250M
น้ำหนักรถ 145 กก.ซึ่งหนักที่สุดในบรรดา 3 คันที่นำมาทดสอบครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นรถวิบากที่สามารถเข็นได้ไม่ยากนัก เพราะตำแหน่งของแฮนด์บาร์นั้นไม่ได้สูงมากนักเมื่อเทียบกับรถเน็คเก็ตหรือสปอร์ตทั่วไป ความสูงของเบาะ 855 มม. แต่ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ ต่อตำแหน่งการวางเท้าเลย

 

WR250X
สามารถเข็นรถได้พอ ๆ กับรถ CRF250M และน้ำหนักขาตั้งข้างจะเบา และสั้นกว่า WR250R เพราะวงล้อมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่เล็กกว่านั่นเอง ตำแหน่งการวางเท้ากับพื้นสูงไปนิดหน่อย แต่ก็ยังสามารถใช้งานตัวรถได้ดีไม่มีปัญหา

XT250X
คุณจะสามารถใช้รถคันนี้ท่องป่าเขาลำเนาไพรได้อย่างง่ายดาย เพราะด้วยเบาะนั่งที่ต่ำเพียง 790 มม. และน้ำหนักเบามาก พร้อมทั้งมีองศาของตัวแฮนด์บาร์ที่กว้างกว่าทั้ง 3 คัน เพราะฉะนั้นคุณจึงสามารถวางเท้าทั้งสองข้างบนพื้นได้อย่างเต็มตีน ซึ่งนั่นจึงทำให้เรื่องเข็นรถเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากซะอีก

[เรือนไมล์]

CRF250M

แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้วัดรอบ และวัดความเร็วใหญ่ตามไปด้วย มาพร้อมทริปมิเตอร์ และมิเตอร์บอกระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนอุปกรณ์ทางฝั่งประกับซ้ายมือนั้นดูแตกต่างจากของ Yamaha

 

WR250X
มันดูดีมีสไตล์กับแผงหน้าปัดแบบแคบ และเรือนไมล์เป็นดิจิตอลซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องการมองเห็น แต่จะอ่านเวลาของนาฬิกายากนิดหนึ่ง อีกทั้งมาพร้อมชุดอุปกรณ์บอกสถานะต่าง ๆ แบบครบครัน

XT250X
จอแสดงผลอยู่ทางฝั่งขวาของเรือนหน้าปัด ส่วนไฟแสดงสถานะต่าง ๆ อยู่ทางฝั่งซ้าย โดยรวมแล้วออกมาสวยงามใช้งานง่าย

[สวิทช์ต่าง ๆ บนแฮนด์]


CRF250M (ซ้าย)

CRF250M (ขวา)

WR250X (ซ้าย)

WR250X (ขวา)

XT250X (ซ้าย)

XT250X (ขวา)

โปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษประจำสัปดาห์ 

Exit mobile version