ขุดประวัติรถเน็กเก็ต เกิดมาจากไหน เพราะอะไรคนถึงชอบ
- 30/01/2017
307 views
ผ่านมาเกือบจะ 40 ปีแล้วที่รถเน็กเก็ตถือกำเนิดขึ้นมาในวงการมอเตอร์ไซค์ด้วยเหตุผลที่ว่า รถสปอร์ตที่ขับๆกันอยู่ในสมัยนั้นมันเป็นรถสำหรับสนามแข่ง ไม่ใช่รถที่จะเอามาวิ่งเล่นกันบนถนนทั่วไป จึงมีการดัดแปลง และถอดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อลดน้ำหนัก และความคล่องตัว ว่ากันว่าต้นตอนั้นเกิดจากนักขับคนหนึ่งที่ไม่มีเงินจะซ่อมแฟริ่งเพราะขับล้มบ่อยเกิน ก็เลยถอดแฟริ่งทิ้งออกไป ซึ่งการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงประมาณ 1880 แล้ว แต่ถ้าจะเอาคันแรกที่ออกสู่สายตาประชาชนเลยก็เห็นจะเป็นดีไซน์ของรถมอเตอร์ไซค์ที่ลงบนนิตยสาร Bike ในปี 1893 ที่ไม่มีทั้งแฟริ่ง กระจกข้าง เบาะหลัง หรือแม้กระทั่งพักเท้า
จริงๆแล้วคำว่าสตรีทไฟเตอร์นั้นเกิดมาก่อนคำว่าเน็กเก็ต เพราะรถที่เอามาถอดแฟริ่งทำในยุคแรกๆนั้นจะเป็นรถซีซีใหญ่ คำว่าเน็กเก็ตนั้นจะค่อนไปทางรถเล็กถึงกลางมากกว่า สตรีทไฟเตอร์นั้นถูกใช้ครั้งแรกกับรถแต่งของ Harley Davidson หลังจากนั้นก็ค่อยๆแพร่มาถึงญี่ปุ่น ส่วนรถสตรีทไฟเตอร์คันแรกเลยที่ถูกผลิตออกมาก็คือ Speed Triple ของค่าย Triumph หลังจากนั้นก็ค่อยๆทยอยออกตามกันมาเรื่อยๆ แต่เจ้าแรกที่ทำออกมาแล้วด้รับความนิยมที่สุดในเวลานั้นเห็นจะเป็น Ducati Monster
ข้อดีของรถเน็กเก็ต
ทั้งๆที่รถสปอร์ตมีแรงบิดเยอะกว่า ขับมันส์กว่า เร็วกว่า ทำไมคนถึงหันมาสนใจรถเน็กเก็ต? จุดที่คนให้ความสนใจมากที่สุดก็คือข้อแตกต่างในเรื่องของท่านั่ง เพราะรถสปอร์ตนั้นจริงๆแล้วก็คือเวอร์ชั่นน้องๆของรถสนาม ที่เน้นให้คนขับหมอบลงไปใกล้ๆกับถังน้ำมัน แน่นอนว่าขับไปนานๆก็จะเกิดอาหารเมื่อย และล้า ต่างกับรถเน็กเก็ตที่เวลาขับหลังจะตรงกว่าทำให้ไม่เมื่อยมาก เหมาะแก่การใช้ขับไปนู่นมานี่ในชีวิตประจำวันทั่วๆไป
อีกหนึ่งจุดที่บางคนอาจจะเพิ่งนึกออกเมื่อได้อ่านก็คือ ทัศนวิสัยในการขับขี่รถเน็กเก็ตจะดีกว่ารถสปอร์ตมาก ทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจากท่านั่งหลังตรงนั่นเอง ทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมา
จุดด้อยของรถเน็กเก็ต
แน่นอนว่าทุกๆอย่างย่อมมีทั้งจุดดีจุดด้อย สำหรับรถเน็กเก็ตแล้ว ถึงเราจะไม่เมื่อยมือหรือไหล่เหมือนอย่างรถสปอร์ต แต่ก็อาจเมื่อยก้นได้ เพราะน้ำหนักทั้งตัวของเราทิ้งลงมาอยู่ที่ก้น และเบาะของรถเน็กเก็ตก็ไม่ได้ออกแบบมาให้นั่งได้สบายๆเหมือนรถสายทัวร์ริ่ง และอีกอย่างนึงก็คือถ้าเจอลมแรงๆก็มีสิทธ์ตีเราหงายได้เหมือนกัน ส่วนแฮนด์บาร์นั้นจะกว้างกว่าคลิปออนแบบสปอร์ต ทำให้เซาะแซะไปตามช่องเล็กๆยากกว่า
เราก็คงต้องมาดูกันต่อไปว่ารถเน็กเก็ตกับสตรีทไฟเตอร์จะสามารถพัฒนาไปได้ถึงขนาดไหน เพราะแต่ละค่ายต่างก็เปิดตัวรถใหม่กันเป็นว่าเล่นอย่างไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
——